สี … จับคู่ให้เหมาะกับบ้าน
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเมื่อเดินไปในห้องที่ทาห้องด้วยสีฟ้าอ่อนๆ ถึงรู้สึกสบายใจมากกว่าเดินเข้าห้องที่มีสีดำ นั่นเพราะว่าอิทธิพลของสีได้ส่งผลต่อความรู้สึก ทันทีที่มองเห็นสีสายตาจะประสานกับการทำงานสมอง ประมวลผลร่วมกับประสบการณ์ แสดงออกมาเป็นอิทธิพลต่อความรู้สึกโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นสีที่ใช้ทาบ้านแต่ละเฉดสีจึงส่งผลต่ออารมณ์ผู้อยู่อาศัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะเลือกสีบ้านจึงควรใช้เวลาเพื่อพิจารณาถึงอิทธิพลของสีร่วมด้วยนะครับ
สีไหนให้อิทธิพลอย่างไร
โดยหลักการเบื้องต้น สีในโทนร้อน เช่น สีแดง สีส้ม เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับอันตราย ความร้อนแรง จึงมักใช้ในสัญลักษณ์แจ้งเตือนต่าง ๆ ในเชิงจิตวิทยาเมื่อคนเราเห็นสีแดงจะรู้สึกตื่นเต้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญร่างกายได้ดี
ส่วนสีเขียวและสีฟ้า เป็นสีโทนเย็น เป็นสีของธรรมชาที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ส่งผลในเรื่องความสงบร่มรื่น สบายใจ
สีในโทนอ่อน อย่างสีขาว สีครีม ให้ความรู้สึกสว่าง ปลอดภัย สร้างความรู้สึกบริสุทธิ์ จึงมักใช้ในการทำบุญ ส่วนสีในโทนมืด อย่าง สีดำ สีน้ำเงินเข้ม สีน้ำตาลเข้ม เป็นสีของผืนดินและสัญลักษณ์การพรากจาก จึงมักใช้ในงานอวมงคล เป็นต้น
การทำความเข้าใจกับอิทธิพลของสีจะช่วยให้เลือกสีที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้นนั่นเอง
Sweet Tone : บ้านคนหนุ่มสาวหรือคู่แต่งงานใหม่
บ้านของคู่รักใหม่ เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอยู่แล้ว ไม่ว่าโทนสีไหนก็แทบใช้ได้ทุกสี อาจยืนพื้นด้วยสีขาวหรือสีครีม แต่เพิ่มสีสันหวือหวาในบางมุมของบ้านให้เหมาะกับการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เช่น สีชมพูสด สีบานเย็น สีช็อกกิ้งพิงค์ แต่หากไม่ชอบให้หวานเกินไปอาจเลือกเป็นสีเขียวน้ำทะเล สีส้ม สีเขียวเลมอน ก็ทำให้บ้านสดใสเช่นกัน สีในกลุ่มนี้ช่วยให้คู่รักรู้สึกสดชื่น มีความสุข และสนุกกับการสร้างชีวิตใหม่ได้ดี
Yellow Tone : บ้านของครอบครัวใหญ่รวมคนหลายวัย
บ้านครอบครัวใหญ่มักมีคนหลายวัยอยู่ด้วยกัน แน่นอนว่าความชอบค่อนข้างจะหลากหลาย อาจจำเป็นต้องเลือกโทนสีกลาง ๆ ไว้ก่อน เช่น โทนสีขาว สีเทา สีน้ำตาล สีเบสและสีครีม สีกลุ่มนี้รองรับการตกแต่งเพิ่มภายหลังได้ดี หากต้องการให้บ้านมีสีสันแนะนำให้ใช้โทนสีเหลืองอ่อนๆ จนถึงเหลืองกลางๆ เกือบเข้ม เนื่องจากสีเหลืองช่วยให้กระชุ่มกระชวย สร้างความรู้สึกสบายใจ มีความหวังใหม่ๆ เสมอ เหมาะกับเด็กเพราะสร้างจินตนาการและความรู้สึกสดใส สำหรับผู้สูงวัยช่วยให้กระฉับกระเฉง ไม่ซึมเศร้าง่าย ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจด้วย
Two Tone : บ้านสไตล์โฮมออฟฟิศ
สำหรับบ้านที่ใช้ประโยชน์หลายทาง อย่างโฮมออฟฟิศที่ใช้ทั้งพักอาศัยและเป็นที่ทำงานด้วย อาจใช้ลักษณะการแบ่งโทนเพื่อแยกโซนให้ชัดเจน
สำหรับส่วนเป็นที่อาศัยใช้สีโทนเย็น เช่น เขียว เทาและม่วง เพื่อให้รู้สึกสงบเมื่อเดินเข้ามา และใช้พักผ่อนสมองหลังการทำงานได้เป็นอย่างดี ส่วนโซนออฟฟิศใช้สีที่แตกต่างจากบ้านเพื่อกระตุ้นความรู้สึกอยากทำงาน ใช้สีในโทนร้อนตกแต่ง เช่น สีส้ม สีแดง เพื่อกระตุ้นความกระฉับกระเฉงและพลังสร้างสรรค์แก่คนทำงานได้ แต่ไม่ควรใช้สีโทนร้อนเป็นหลักเพราะอาจทำให้สมาธิลดลง ทางที่ดีใช้ในสัดส่วน 20-30% ของออฟฟิศจะเหมาะกว่า
White Tone : สีสว่างของบ้านพื้นที่น้อย
สีโทนสว่างๆ เช่น สีขาว สีครีม สีเหลืองอ่อน จะช่วยเพิ่มระยะสายตาให้รู้สึกว่าพื้นที่กว้างขึ้น และประหยัดพลังงานในการใช้ไฟฟ้าอีกด้วย บ้านที่มีลักษณะเล็ก แคบหรือพื้นที่น้อย ควรเลือกใช้สีโทนขาวเป็นหลัก ตกแต่งด้วยกระจกบางด้าน หรือช่องแสงและช่องไฟมากขึ้นเพื่อลดความรู้สึกอึดอัดลง หากต้องการใช้สีสดใสผสมด้วย ลองใช้โทนสีเหลืองหรือครีมจะช่วยให้ห้องกว้างขวางขึ้นได้อีก
Blue Tone : สีของบ้านพักตากอากาศ
หน้าที่ของบ้านตากอากาศคือ ทำผู้อยู่ผ่อนคลายทั้งกายและใจ รู้สึกสงบ ร่มเย็น มีความสุข หลีกหนีจากความวุ่นวายทั้งปวง สีที่เหมาะกับบ้านพักตากอากาศคือคู่สีของขาว ฟ้า เขียว ครามและสีน้ำทะเล ซึ่งมักจะเห็นทั่วไปในรีสอร์ทหรือบ้านริมทะเล เนื่องจากโทนสีเหล่านี้มีผลให้เกิดความสบายใจ ช่วยบำบัดจิตใจที่วุ่นวาย สับสนและฟื้นฟูสุขภาพใจให้ดีขึ้นได้ด้วย
ไม่ว่าบ้านของคุณจะเป็นแบบไหนสไตล์ ถ้าเลือกสีบ้านได้เหมาะสมาชิกในบ้านก็จะอยู่บ้านด้วยความสุขกายสบายใจอย่างแน่นอน