สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
การพิจารณาเลือก แบบบ้าน ให้เหมาะสมกับที่ดิน
การจะสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ให้เป็น แบบบ้าน เฉพาะตัวที่ตอบสนองความต้องการในการอยู่อาศัยที่จะสร้างความสุข ความสะดวกสบายให้กับตนเองและครอบครัวนั้น แบบบ้านที่จะเลือกหรือรูปแบบที่จะสร้างนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมาก
ซึ่งถ้าหากติดต่อ บริษัทรับสร้างบ้าน ในขั้นต้น ก็จะมีสถาปนิกของบริษัทจะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการเลือกแบบ การวางตำแหน่งบ้านให้เหมาะสมลงในที่ดิน โดยท่านจะต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยเพื่อให้ท่านได้แบบบ้านที่ลงตัวสวยงามมีประโยชน์ใช้สอยที่ดีและอยู่สบาย ซึ่งปัจจัยในการพิจารณาเบื้องต้นในการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดิน มีดังนี้
1.พิจารณารูปทรงและลักษณะของบ้านให้เหมาะสมกับที่ดิน
ในกรณีที่ที่ดินของท่านมีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โต ในการเลือกแบบบ้านก็คงไม่มีข้อจำกัดมากนัก แต่หากที่ดินของท่านมีขนาดที่จำกัด การเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากที่ดินของคุณเป็นที่ดินแนวลึกการแบบบ้านแนวกว้างก็คงไม่เหมาะนัก แต่ถ้าหากที่ดินเป็นที่ดินแนวกว้างจะเลือกแบบบ้านทรงลึก ก็อาจจะไม่เหมาะสมเช่นกันดังนั้นในการเลือกแบบบ้านคงจะต้องเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับลักษณะที่ดินเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาประกอบกับทิศทางและพฤติกรรมการใช้สอยของท่านด้วยซึ่งประเด็นต่างๆ ก็คงต้องพิจารณาไปพร้อมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้านด้วย ซึ่งจะได้ให้รายละเอียดในหัวข้อถัดไป
2.พิจารณาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน
การพิจารณาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน เป็นตัวกำหนดฟังก์ชั่นการใช้สอย ส่วนใดควรอยู่บริเวณไหนของบ้าน เนื่องจากบางพื้นที่ของบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องทำงานและห้องพักผ่อน เราต้องการความเป็นส่วนตัวและความสงบเงียบ ดังนั้นพื้นที่ดังกล่าวก็ควรอยู่ด้านที่ไม่มีเสียงดังและคนพลุกพล่านติดถนนหรือติดกับพื้นที่ข้างเคียงที่เป็นหอพักหรือโรงงาน บางพื้นที่ที่เป็นห้องดูหนังฟังเพลงหรือห้องดนตรีที่ต้องใช้เสียงบ้างก็คงต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่จะชิดกับบ้านข้างเคียง เพราะอาจจะรบกวนบ้านข้างเคียง
ดังนั้นการเลือกแบบบ้านก็ควรจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดินให้สัมพันธ์กันด้วย เนื่องจากว่าถ้าเลือกวางตำแหน่งห้องต่างๆได้ดีก็จะทำให้เราอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นได้อย่างมีความสุข ลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านโดยรอบ พื้นที่ที่ต้องการเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจเราก็จะได้อยู่อย่างสงบเงียบ พื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ไม่ต้องระแวงว่าใครจะจะแอบมองเราอยู่หรือไม่ และพื้นที่ที่เราต้องการใช้เสียงเช่นห้องดนตรีหรือห้องฟังเพลงก็ไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะไปรบกวนข้างบ้านหรือไม่
3.พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระยะร่นของอาคาร
การพิจารณาเกี่ยวข้องกับระยะร่นของอาคาร มีผลต่อการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินเช่นกัน เนื่องจากตามกฎหมายนั้น กำหนดให้ต้องมีช่องเปิดหน้าต่างประตูที่ห่างจากแนวเขตตามกฎหมายโดยทั่วไปไม่ต่ำกว่า 2.00 ม.ในกรณีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น และไม่ต่ำกว่า 3 ม. ในชั้นที่ 3ขึ้นไปในบ้านที่มีมากกว่า 3 ชั้น ดังนั้นหลักง่ายๆเบื้องต้นในการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินก็คือเลือกแบบบ้านให้มีความกว้างไม่มากกว่าความกว้างของที่ดินหักด้วยระยะร่นรวม 2 ด้านไม่น้อยกว่า 4 เมตร (ในกรณีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น) และในด้านลึก ก็ต้องเลือกแบบบ้านที่มีความลึกไม่มากกว่าความลึกของที่ดินหักด้วยระยะร่นรวมด้านหน้าและด้านหลังไม่น้อยกว่า 4 เมตรเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นหากท่านมีที่ดินขนาด 20X20 เมตร ก็ควรจะเลือกแบบบ้านที่ขนาดไม่เกิน 16X16 เมตร ซึ่งก็คือการเผื่อระยะร่นในแต่ละด้านด้านละ 2 เมตรนั่นเอง
4.พิจารณาเกี่ยวกับทิศทางลมและแดด
การพิจารณาเกี่ยวกับทิศทางลมและแดดในการวางตำแหน่งบ้านก็มีความสำคัญมากๆเช่นกันเนื่องจากการเลือกแบบบ้านและวางตำแหน่งอาคารบนที่ดิน หากพิจารณารอบคอบ ก็จะทำให้บ้านของท่านอยู่แล้วเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวพึ่งพาระบบปรับอากาศน้อยที่สุด ในการพิจารณาวางตัวอาคารด้านแคบไว้ทิศตะวันออกและตะวันตกเพื่อรับแสงแดดในตอนสายและตอนเย็นให้น้อยที่สุด พื้นที่ที่จะเป็นกระจกผืนใหญ่เพื่อเปิดมุมมองทัศนียภาพให้มากที่สุดโดยไม่รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ก็ควรอยู่ในทิศเหนือ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับแสงแแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง
ดังนั้นพื้นที่ทางทิศเหนือจะเหมาะกับห้องพักผ่อน ห้องทานอาหาร พื้นที่พักผ่อนภายนอก ตำแหน่งที่จะวางห้องน้ำที่ดีก็คือทิศที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรงเพื่อลดความชื้นสะสมในห้อง ซึ่งห้องน้ำที่ดีก็ควรจะวางตำแหน่งในทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นหลัก
5.พิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว
ข้อสุดท้ายในการพิจารณาเลือกแบบบ้านก็คือการการเลือกให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว เช่นบางครอบครัวต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมระหว่างสมาชิกครอบครัวในวันหยุด เช่นมีการทำอาหารทานร่วมกัน หรือมีการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกแบบบ้านที่มีส่วนครัวและพื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ มีเฉลียงพักผ่อนที่เชื่อมต่อกับสวนภายนอก บางครอบครัวชอบที่จะดูหนังฟังเพลงร่วมกันก็อาจจะต้องเลือกแบบบ้านที่มีห้องโฮมเธียเตอร์ ซึงประเด็นสุดท้ายนี้ผู้ที่ทราบดีก็คงเป็นสมาชิกในครอบครัวเอง ที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาความจำเป็นที่แท้จริงคืออะไรบ้าง ซึ่งหากสร้างฟังก์ชั่นนั้นมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็จะเป็นภาระที่จะต้องดูแลในภายหลังอีกด้วย
ดังนั้นก่อนที่จะเลือกแบบบ้านหรือเลือกผู้ที่สร้างบ้านก็ขอให้พิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ เพราะการสร้างบ้านคงไม่ได้สร้างกันได้บ่อยๆครับ
เรื่องโดย : คุณธีร์ บุญวาสนา ผู้บริหาร บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด