ก่อนการสร้างบ้าน การเลือกสรรผู้เกี่ยวข้อง และองค์ประกอบอื่นๆ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากบ้านเป็นสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง บางคนทั้งชีวิตอาจจะมีโอกาสสร้างบ้านได้เพียงแค่ครั้งเดียว จากการเก็บหอมรอมริบเงินมาทั้งชีวิต

 

เพราะเหตุนี้ ก่อนการสร้างบ้าน จึงควรต้องหาความรู้และการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับการก่อสร้างและบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ต้องถึงขนาดรู้ลึกรู้จริงทุกขั้นตอน แต่ควรรู้ในสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เพื่อความรอบคอบในการสร้างบ้าน เพื่อให้ได้บ้านที่มั่นคง แข็งแรงและสวยงาม ในงบประมาณที่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันนี้การสืบค้นหาข้อมูลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้เช่นกัน และวิเคราะห์ข้อมูลให้ถูกต้องโดยรายละเอียดในการสืบค้นข้อมูลที่สำคัญมีดังนี้

 

1. ตรวจสอบราคาประเมินในการก่อสร้างบ้านที่เหมาะสมกับสเป็ควัสดุและความต้องการของตนเอง การสร้างบ้านราคาถูก ไม่ได้หมายความว่า จะตอบทุกโจทย์ของความต้องการได้ ขณะเดียวกัน การก่อสร้างบ้านราคาสูง ไปก็ไม่ได้รับประกันว่า จะได้บ้านที่ดี มั่งคงแข็งแรง และมีคุณภาพ สมราคา ราคาในการสร้างบ้านต้องสะท้อนความเป็นจริง เหมาะสมกับขอบเขตความรับผิดชอบที่ให้บริการ คุณภาพวัสดุและฝีมือ

 

ในการคัดเลือกบริษัทรับสร้างบ้านควรระวังผู้รับจ้างที่เสนอราคาต่ำเกินความน่าจะเป็น เพราะราคาที่ต่ำจนเกินไปก็เสี่ยงที่ผู้รับจ้างอาจจะต้องการงานโดยใช้ราคาถูกเป็นตัวล่อซึ่งเมื่อมีความเสี่ยงในเรื่องราคาวัสดุปรับตัวหรืออาจจะคิดราคาไม่รอบคอบ ก็อาจจะเกิดการทิ้งงานในภายหลังได้ ส่วนบริษัทที่เสนอราคาสูงก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะเป็นบริษัทดีที่สุด โดยต้องพิจารณาด้านคุณภาพงานและการให้บริการประกอบ ฉะนั้นราคาจึงควรสะท้อนสิ่งที่ได้รับ เช่น บริการก่อน-หลังการขาย วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้าง คุณภาพมาตรฐานในการก่อสร้าง

 

2. ตรวจเช็คประวัติผู้ประกอบการ ในปัจจุบันสามารถตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของผู้ประกอบการได้จากหน่วยงานต่างๆ เช่นสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ว่าเคยถูกร้องเรียนหรือไม่ และเรื่องที่ถูกร้องเรียน ร้ายแรงเพียงใด เช่น ทิ้งงาน สร้างบ้านไม่ได้คุณภาพ , ตรวจสอบที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อตรวจสอบว่ามีการยื่นงบดุลจนถึงปัจจุบันหรือไม่ เพราะอาจเลิกกิจการในทางกฎหมายแล้วโดยไม่ได้มีบอกกล่าว ซึ่งอย่าเชื่อจากข้อความโฆษณาเป็นอันขาด

 

3. ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทรับสร้างบ้าน โดยต้องสามารถหาข้อมูลเจ้าของหรือผู้บริหารได้ง่าย เปิดเผยข้อมูลของผลงานรับสร้างบ้านเก่าๆ ทั้งก่อนและหลังการสร้างบ้าน การที่บริษัทใดมีข้อมูลที่สามารถเปิดเผยสู่สาธารณะได้ ย่อมเป็นการแสดงเจตนาที่ดี สำหรับรายที่ปิดบังหรือให้ข้อมูลคลุมเครือ ก็ต้องระแวงระวังไว้ก่อน

 

4.การตรวจสอบสำนักงานของผู้ประกอบการที่เป็นหลักแหล่ง เนื่องจากการก่อสร้างบ้านเป็นสินค้า และบริการที่มีมูลค่าสูง มีการรับเงินบางส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเมื่อการสร้างบ้านแล้วเสร็จจะต้องมีการรับประกันหลังส่งมอบ ดังนั้นการมีสำนักงานที่ติดต่อได้เป็นหลักแหล่งที่ชัดเจน จึงมีความสำคัญมากว่าจะไม่ทิ้งงานและควบคุมดูแลทั้งในระหว่างการก่อสร้าง และในการรับประกันหลังการขายอีกด้วย

 

5.ตรวจสอบผู้ประกอบการว่ามีวิศวกรและสถาปนิกในการให้คำแนะนำและตรวจสอบงานก่อสร้างหรือไม่ เพื่อเป็นการมั่นใจได้ว่างานก่อสร้างจะดำเนินการไปตามมาตรฐานงานก่อสร้างที่ดี ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรง มีคุณภาพ และมีอายุงานที่ยาวนานตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น

 

6. ตรวจสอบสัญญาว่าจ้างและข้อควรระวัง เบื้องต้นควรเข้าใจก่อนว่า สัญญาส่วนใหญ่มักเขียนขึ้นโดยฝั่งของผู้ประกอบการเอง ดังนั้นถ้าจะให้รอบคอบอาจจะต้องตรวจสอบเนื้อหาสัญญาโดยอ้างอิงสัญญามาตรฐานของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจากเว็ปไซต์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  ซึ่งเป็นสัญญาที่ร่างขึ้นมาเพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค

และควรพิจารณาในประเด็นสำคัญ เพื่อมิให้เสียเปรียบ อาทิเช่น วันเริ่มนับสัญญาควรจะเริ่มวันที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างตามกฎหมายจากหน่วยงานราชการและวันสิ้นสุดสัญญาในวันที่ชำระเงินงวดเซ็นสัญญาแล้ว เรียนรู้ข้อเกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่น เช่น กฎหมายควบคุมอาคาร รู้เรื่องค่าปรับตามสัญญา กรณีก่อสร้างล่าช้า เป็นต้น

 

7.ตรวจสอบเรื่องการแบ่งจ่ายเงินค่าก่อสร้าง ตามงวดงานที่แล้วเสร็จ ได้แก่
• เซ็นต์สัญญา ไม่ควรจ่ายเกิน 15% ในระบบการก่อสร้างแบบโครงสร้างหล่อในที่
• งานโครงสร้างหลักในระบบการก่อสร้างแบบโครงสร้างหล่อในที่(คาน เสา พื้น) โครงสร้างหลังคา แล้วเสร็จ ไม่ควรจ่ายเกิน 45-50%
• งานหลังคา-ผนัง งานระบบสายไฟฟ้า-ท่อประปาภายในแล้วเสร็จ ไม่ควรจ่ายเกิน 70-75%
• งานตกแต่งพื้น-ผนัง หน้าต่างประตู ทาสี สุขภัณฑ์ บันได ควรมีวงเงินกันไว้ประมาณ 25-30%
ทั้งนี้ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับรายการสเป็ควัสดุ ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันในรูปแบบและรายละเอียด

 

การเรียนรู้และตรวจสอบข้อมูลสำคัญดังกล่าว ถึงแม้จะไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้ผู้รับจ้างสร้างบ้านที่ดีมีคุณภาพ ที่จะให้บริการได้ตลอดรอดฝั่ง 100% แต่อย่างน้อยการตรวจสอบให้รอบคอบตามข้อมูลดังกล่าวก็จะเป็้นการป้องกันปัญหาหลักๆให้ได้ผู้ที่จะให้บริการสร้างบ้านที่ดีมีคุณภาพเหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณให้เราสร้างบ้านสำเร็จลุล่วงได้ตามความฝัน

 

เรื่องโดย : คุณธีร์ บุญวาสนา ผู้บริหาร บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด

เลือกบริษัทสร้างบ้าน เป็นเรื่องสำคัญเพราะในส่วนของผู้บริโภคเอง การสร้างบ้านหนึ่งหลังถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะมาสร้างบ้านจึงต้องพิจารณากันค่อนข้างมาก เพื่อให้ได้บ้านที่ถูกใจมากที่สุด ส่วนขั้นตอนในการพิจารณานั้นก็ต้องมีความรอบคอบ และพิจารณาหลายๆ ส่วนประกอบกัน ซึ่งพบว่ามีองค์ประกอบสำคัญๆ ที่ผู้บริโภคควรพิจารณาในการเลือกผู้ประกอบการหรือบริษัทรับสร้างบ้านเพื่อให้ได้บ้านที่ถูกใจมีดังนี้

1. มีที่ตั้งขององค์กร การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน สถานที่ตั้งของบริษัทหรือ สำนักงานถือเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในอันดับต้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริษัทรับสร้างบ้านนั้นมีที่ตั้งอยู่จริงหากเกิดปัญหา ในการให้บริการหรือปัญหางานก่อสร้างไม่ได้คุณภาพขึ้นมา จะได้สามารถเข้าไปพูดคุยหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้บริหารได้อย่างสะดวก

 

2. มีผลงาน บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือต้องมีผลงานที่สามารถตรวจสอบ และเปิดเผยให้เข้าไปเยี่ยมชมผลงานได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และได้เห็นของจริงมากกว่าการดูโมเดล หรือรูปภาพเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าใหม่ยังสามารถสอบถาม หรือปรึกษากับลูกค้าเดิมที่สร้างบ้านไปแล้วเพื่อขอคำแนะนำได้ว่าที่ผ่านมาการก่อสร้างของบริษัทมีปัญหาด้านใดหรือให้บริการดีอย่างไร เพื่อเป็นการตรวจสอบความมั่นใจอีกครั้งหนึ่งด้วย

 

3. มีสถาปนิกประจำองค์กร บริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานควรมีสถาปนิกประจำในองค์กรนั้นๆ เพื่อสามารถ บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขแบบตามที่ลูกค้าต้องการได้ ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทรับสร้างบ้านหลายๆ บริษัทจะมีสถาปนิกเป็นฝ่ายขาย เรียกกันว่า สถาปนิกขาย สถาปนิกที่ปรึกษาซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่การออกแบบ ดูแลลูกค้าและประสานงานระหว่างก่อสร้าง หรือควบคุมการก่อสร้างรวมถึงคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การเลือกวัสดุก่อสร้าง การเลือกใช้โทนสี การตกแต่งภายใน และคำแนะนำในด้านต่างๆ กับลูกค้ากระทั่งส่งมอบบ้าน

 

4. มีวิศวกรประจำองค์กร เมื่อมีผู้ออกแบบแล้วการสร้างบ้านที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรงและโครงสร้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับเงินลงทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบ คำนวณโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และควบคุมขั้นตอนงานก่อสร้างด้วย เพื่อให้การก่อสร้างได้มาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งนี้ตามกฎหมายนั้นวิศวกรถือเป็นวิชาชีพควบคุม ซึ่งผู้ที่จะประกอบอาขีพจะต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพโดยมีสภาวิศวกร จะเป็นกำกับดูแลและเป็นผู้ออกบัตรให้ ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะมีกฎหมายมารองรับอย่างชัดเจนสามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ขณะที่บ้านที่ก่อสร้างโดยไม่มีวิศวกรออกแบบคำนวณโครงสร้าง หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ปัญหาก็จะมาอยู่กับเจ้าของบ้านเพียงฝ่ายเดียว หากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะมีกฎหมายมารองรับอย่างชัดเจน สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ขณะที่บ้านที่ก่อสร้างโดยไม่มีวิศวกรออกแบบคำนวณโครงสร้างหากเกิดปัญหาขึ้นก็จะไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ปัญหาก็จะมาอยู่กับเจ้าของบ้านเพียงฝ่ายเดียว

 

5. มีบริการหลังการขาย ปัจจุบันการให้บริการหลังการขายเป็นเรื่องที่สำคัญ เรื่องของบ้านก็เช่นกันเพราะหลังจากการสร้างเสร็จไป แล้วบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีจะต้องมีบริการดูแลบำรุง รักษาหรือซ่อมบำรุงหากตรวจสอบพบข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของงานก่อสร้างที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งจะต้องมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาให้

 

6. มีการรับประกันคุณภาพ บ้านที่สร้างอย่างมีคุณภาพบริษัทรับสร้างบ้านจะต้องมีการรับประกัน ทั้งในส่วนของการรับประกันงานก่อสร้าง และงานโครงสร้างของบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ บ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิก วิศวกร และควบคุมงานอย่างถูกขั้นตอนโดยวิศวกร มักจะมีการรับประกันคุณภาพอยู่แล้ว เช่นรับประกันงานก่อสร้าง 1 ปี รับประกันโครงสร้าง 5 ปี เป็นต้น ขณะที่บ้านที่สร้างโดยผู้รับเหมาทั่วไปจะไม่มีการรับประกันใดๆ หากเกิดปัญหาก็ไม่สามารถเรียกร้องจากผู้รับเหมาหรือช่างที่ควบคุมงานได้

 

7. มีบริการเสริมพิเศษ การก่อสร้างบ้านนอกจากตัวบ้านแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ การขออนุญาติก่อสร้าง การขอใช้น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ เลขที่บ้าน จากหน่วยงานภาครัฐ การติดต่อขอใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน การให้คำปรึกษาและจัดหาบริษัทตกแต่งภายใน การจัดหา บริษัทรับตกแต่งสวน การจัดหาบริษัททำสระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความพร้อมจะมีบริการดังกล่าวให้กับลูกค้าด้วยเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และยังถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ โดยลูกค้าไม่ต้องไปจัดหาเอง

 

จะเห็นได้ว่า การสร้างบ้านหนึ่งหลังจำเป็นต้องมีองค์ประกอบในการการพิจารณาผู้ที่จะมาสร้างบ้านอยู่หลายส่วนเพื่อให้ได้บ้านที่มีมาตรฐาน ได้รับบริการที่สะดวกแบบครบวงจร และสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องกังวลกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่ราคาซึ่งถือเป็นตัวแปรที่สำคัญส่วนหนี่งที่ต้องพิจารณาแต่ไม่ใช่ทั้งหมดควรพิจารณาส่วนอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อวิธีการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

 

เรื่องโดย : คุณธีร์ บุญวาสนา ผู้บริหารบริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด

การจะสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ให้เป็น แบบบ้าน เฉพาะตัวที่ตอบสนองความต้องการในการอยู่อาศัยที่จะสร้างความสุข ความสะดวกสบายให้กับตนเองและครอบครัวนั้น แบบบ้านที่จะเลือกหรือรูปแบบที่จะสร้างนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมาก

 

ซึ่งถ้าหากติดต่อ บริษัทรับสร้างบ้าน ในขั้นต้น ก็จะมีสถาปนิกของบริษัทจะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการเลือกแบบ การวางตำแหน่งบ้านให้เหมาะสมลงในที่ดิน โดยท่านจะต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยเพื่อให้ท่านได้แบบบ้านที่ลงตัวสวยงามมีประโยชน์ใช้สอยที่ดีและอยู่สบาย ซึ่งปัจจัยในการพิจารณาเบื้องต้นในการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดิน มีดังนี้

 

1.พิจารณารูปทรงและลักษณะของบ้านให้เหมาะสมกับที่ดิน

 

ในกรณีที่ที่ดินของท่านมีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โต ในการเลือกแบบบ้านก็คงไม่มีข้อจำกัดมากนัก แต่หากที่ดินของท่านมีขนาดที่จำกัด การเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากที่ดินของคุณเป็นที่ดินแนวลึกการแบบบ้านแนวกว้างก็คงไม่เหมาะนัก แต่ถ้าหากที่ดินเป็นที่ดินแนวกว้างจะเลือกแบบบ้านทรงลึก ก็อาจจะไม่เหมาะสมเช่นกันดังนั้นในการเลือกแบบบ้านคงจะต้องเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับลักษณะที่ดินเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาประกอบกับทิศทางและพฤติกรรมการใช้สอยของท่านด้วยซึ่งประเด็นต่างๆ ก็คงต้องพิจารณาไปพร้อมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้านด้วย ซึ่งจะได้ให้รายละเอียดในหัวข้อถัดไป

 

2.พิจารณาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน

การพิจารณาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน เป็นตัวกำหนดฟังก์ชั่นการใช้สอย ส่วนใดควรอยู่บริเวณไหนของบ้าน เนื่องจากบางพื้นที่ของบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องทำงานและห้องพักผ่อน เราต้องการความเป็นส่วนตัวและความสงบเงียบ ดังนั้นพื้นที่ดังกล่าวก็ควรอยู่ด้านที่ไม่มีเสียงดังและคนพลุกพล่านติดถนนหรือติดกับพื้นที่ข้างเคียงที่เป็นหอพักหรือโรงงาน บางพื้นที่ที่เป็นห้องดูหนังฟังเพลงหรือห้องดนตรีที่ต้องใช้เสียงบ้างก็คงต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่จะชิดกับบ้านข้างเคียง เพราะอาจจะรบกวนบ้านข้างเคียง

 

ดังนั้นการเลือกแบบบ้านก็ควรจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดินให้สัมพันธ์กันด้วย เนื่องจากว่าถ้าเลือกวางตำแหน่งห้องต่างๆได้ดีก็จะทำให้เราอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นได้อย่างมีความสุข ลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านโดยรอบ พื้นที่ที่ต้องการเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจเราก็จะได้อยู่อย่างสงบเงียบ พื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ไม่ต้องระแวงว่าใครจะจะแอบมองเราอยู่หรือไม่ และพื้นที่ที่เราต้องการใช้เสียงเช่นห้องดนตรีหรือห้องฟังเพลงก็ไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะไปรบกวนข้างบ้านหรือไม่

 

3.พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระยะร่นของอาคาร

การพิจารณาเกี่ยวข้องกับระยะร่นของอาคาร มีผลต่อการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินเช่นกัน เนื่องจากตามกฎหมายนั้น กำหนดให้ต้องมีช่องเปิดหน้าต่างประตูที่ห่างจากแนวเขตตามกฎหมายโดยทั่วไปไม่ต่ำกว่า 2.00 ม.ในกรณีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น และไม่ต่ำกว่า 3 ม. ในชั้นที่ 3ขึ้นไปในบ้านที่มีมากกว่า 3 ชั้น ดังนั้นหลักง่ายๆเบื้องต้นในการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินก็คือเลือกแบบบ้านให้มีความกว้างไม่มากกว่าความกว้างของที่ดินหักด้วยระยะร่นรวม 2 ด้านไม่น้อยกว่า 4 เมตร (ในกรณีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น) และในด้านลึก ก็ต้องเลือกแบบบ้านที่มีความลึกไม่มากกว่าความลึกของที่ดินหักด้วยระยะร่นรวมด้านหน้าและด้านหลังไม่น้อยกว่า 4 เมตรเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นหากท่านมีที่ดินขนาด 20X20 เมตร ก็ควรจะเลือกแบบบ้านที่ขนาดไม่เกิน 16X16 เมตร ซึ่งก็คือการเผื่อระยะร่นในแต่ละด้านด้านละ 2 เมตรนั่นเอง

 

4.พิจารณาเกี่ยวกับทิศทางลมและแดด

 

การพิจารณาเกี่ยวกับทิศทางลมและแดดในการวางตำแหน่งบ้านก็มีความสำคัญมากๆเช่นกันเนื่องจากการเลือกแบบบ้านและวางตำแหน่งอาคารบนที่ดิน หากพิจารณารอบคอบ ก็จะทำให้บ้านของท่านอยู่แล้วเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวพึ่งพาระบบปรับอากาศน้อยที่สุด ในการพิจารณาวางตัวอาคารด้านแคบไว้ทิศตะวันออกและตะวันตกเพื่อรับแสงแดดในตอนสายและตอนเย็นให้น้อยที่สุด พื้นที่ที่จะเป็นกระจกผืนใหญ่เพื่อเปิดมุมมองทัศนียภาพให้มากที่สุดโดยไม่รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ก็ควรอยู่ในทิศเหนือ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับแสงแแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง

 

ดังนั้นพื้นที่ทางทิศเหนือจะเหมาะกับห้องพักผ่อน ห้องทานอาหาร พื้นที่พักผ่อนภายนอก ตำแหน่งที่จะวางห้องน้ำที่ดีก็คือทิศที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดโดยตรงเพื่อลดความชื้นสะสมในห้อง ซึ่งห้องน้ำที่ดีก็ควรจะวางตำแหน่งในทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นหลัก

5.พิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว

 

ข้อสุดท้ายในการพิจารณาเลือกแบบบ้านก็คือการการเลือกให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัว เช่นบางครอบครัวต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมระหว่างสมาชิกครอบครัวในวันหยุด เช่นมีการทำอาหารทานร่วมกัน หรือมีการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกแบบบ้านที่มีส่วนครัวและพื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ มีเฉลียงพักผ่อนที่เชื่อมต่อกับสวนภายนอก บางครอบครัวชอบที่จะดูหนังฟังเพลงร่วมกันก็อาจจะต้องเลือกแบบบ้านที่มีห้องโฮมเธียเตอร์ ซึงประเด็นสุดท้ายนี้ผู้ที่ทราบดีก็คงเป็นสมาชิกในครอบครัวเอง ที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาความจำเป็นที่แท้จริงคืออะไรบ้าง ซึ่งหากสร้างฟังก์ชั่นนั้นมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็จะเป็นภาระที่จะต้องดูแลในภายหลังอีกด้วย

ดังนั้นก่อนที่จะเลือกแบบบ้านหรือเลือกผู้ที่สร้างบ้านก็ขอให้พิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ เพราะการสร้างบ้านคงไม่ได้สร้างกันได้บ่อยๆครับ

 

เรื่องโดย : คุณธีร์ บุญวาสนา ผู้บริหาร บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด 

แบบบ้าน 5 ห้องนอน อาจจะดูใหญ่เกินไป แต่ถ้าพูดถึงการสร้างบ้าน ปัจจัยที่สำคัญคือฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยเฉพาะห้องนอน เพราะเป็นสัดส่วนที่จะปรับเปลี่ยนไปตามปริมาณของผู้อยู่อาศัย และขนาดของครอบครัว

ปัจจุบันบ้านตามโครงการจะมีองค์ประกอบพื้นฐานอยู่ที่ 2-3 ห้องนอนเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ เราจึงขอแนะนำแบบบ้านขนาด 5 ห้องนอนเพื่อแนะนำให้ผู้ที่กำลังอยากมีบ้าน ได้นำไปเป็นไอเดียและเลือกสร้างบ้านกันค่ะ

 

1. แบบบ้าน New C house 2018

 

แบบบ้านหลังแรกประกอบด้วยพื้นที่ 2 ชั้น 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยที่จอดรถ 712.83 ตร.ม.วางผังป็นตัว U โดยเปิดมุมมองของทุกพื้นที่ภายในบ้านให้เชื่อมโยงสัมผัสบรรยากาศ ด้วยพื้นที่สวนกลางบ้าน ที่จะสร้างความสุขในการอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาแห่งความสุขภายใต้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติแบบรีสอร์ท ออกแบบภายนอกให้มีความเรียบง่ายแบบมีรสนิยม มีช่องเปิดขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่จะเชื่อมโยงบรรยากาศธรรมชาติกลางบ้านและปิดทึบในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อให้ตอบสนองการอยู่อาศัยในทุกพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว

 

2. แบบบ้าน THE INTHANON (เรือนอินทนนท์)

 

แบบบ้านเรือนอินทนนท์ ขนาด 5 ห้องนอน  6 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 1088.72 ตร.ม. หลังนี้มีห้องพักผ่อนขนาดใหญ่ชั้นบนและชั้นล่าง พร้อมด้วยห้องออกกำลังกายห้องทำงาน และห้องพระแยก ตัวบ้านประกอบด้วยเรือนใหญ่ 3 หลัง ติดต่อกันในรูปแบบ TROPICAL STYLE เพิ่มบรรยากาศพักผ่อนด้วยบ่อน้ำด้านหน้าและเฉลียงด้านหลังบ้านที่เชื่อมต่อไปยังที่ว่างด้านหลังที่สามารถจัดเป็นสวนพักผ่อนหรือสระว่ายน้ำได้ตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว

 

3. แบบบ้าน New Similan 2018 (นิวสิมิลัน 2018)

5 ห้องนอน  6 ห้องน้ำ 3 ชั้น ที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามและทันสมัย วางผังให้พื้นที่บ้านโอบล้อมสระว่ายน้ำและชานกลางบ้าน ให้มีความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัวที่จะสร้างความสุขให้ทุกๆ วัน โดยการเปิดมุมมองที่ดีของทุกพื้นที่ภายในบ้านสู่สระว่ายน้ำกลางบ้านด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เชื่อมโยงทุกพื้นที่ให้ใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่องและลงตัว โอ่โถงด้วยฝ้าภายในบ้านทุกชั้นที่สูงถึง 2.80 เมตร

 

นี่ก็เป็น 3 แบบบ้านขนาด 5 ห้องนอนของบริษัทอยุธยา สร้างบ้านที่เน้นความเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ท และมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ใครที่กำลังมองหาบ้านขนาด 5 ห้องนอนก็สามารถติดต่อที่บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ

เทคนิคเลือกแบบบ้าน เมื่อสร้างบ้านเองนั้น เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและตัดสินใจได้ยาก ต้องคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ หลายอย่าง บางครั้งแบบสวยแต่การใช้งานไม่ครบหรือแบบที่ชอบไม่พอดีกับพื้นที่ที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้การเลือกแบบ้านของคุณง่ายขึ้น เรามี เทคนิคเลือกแบบบ้านให้ตรงใจ มาช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

พื้นที่ : แน่นอนว่าก่อนจะสร้างบ้านเราต้องมีที่ดินเพื่อทำการปลูกสร้าง ดังนั้นต้องคำนวณพื้นที่ที่จะใช้เพื่อเป็นตัวบ้านและส่วนประกอบอื่น ๆ ให้ดี เพื่อที่จะเลือกแบบบ้านพอดีและเหมาะสม รวมถึงวางแผนประกอบในส่วนอื่นของบ้านได้พร้อมกัน และอย่าลืมคำนึงถึงส่วนของทำเลที่ตั้ง เช่น ถ้าหากบ้านอยู่ในพื้นที่มีน้ำท่วมได้ก็ต้องเลือกแบบบ้านที่พื้นสูง หรือการใช้วัสดุที่เหมาะสมกับภูมิประเทศนั้น ๆ

ฟังก์ชันการใช้งาน :หลังจากที่เราได้ขนาดของตัวบ้านแล้ว ส่วนต่อมาคือเรื่องของฟังก์ชันที่ต้องการใช้งานสำหรับสมาชิกในครอบครัว อยากได้กี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยพิเศษอื่น ๆ ต้องการรูปแบบไหนบ้าง ซึ่งแบบบ้านทั่วไปก็จะระบุชัดเจนว่ากี่ห้องนอน ห้องน้ำ และส่วนอื่น ๆ ที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ ถ้าเรามีโจทย์ไว้ในใจแล้วก็จะทำให้เลือกแบบบ้านได้ง่ายมากขึ้น

ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย :สุภาษิตที่ว่า “ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน” ยังใช้ได้อยู่เสมอ การเลือกแบบบ้านจึงต้องเป็นไปตามความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัย ในบ้านที่อยู่ร่วมกันหลายคนอาจจะต้องถามความคิดเห็นของทุก ๆ คน พ่อแม่อาจจะชอบบ้านสไตล์รีสอร์ท ลูกอาจจะชอบสไตล์ลอฟต์จึงควรปรึกษากันเพื่อได้แบบร่วมที่ถูกใจและเหมาะสมที่สุด เพราะบ้านสร้างครั้งเดียวก็อยู่กับเราไปอีกนาน และบ้านที่ชอบและถูกใจก็จะช่วยให้ทุกวันของเราเต็มไปด้วยความสุข

ฮวงจุ้ย : หากคุณเชื่อเรื่องนี้และพอจะมีไกด์ไลน์อยู่แล้วว่าห้องนอนควรอยู่จุดไหน ทิศไหนควรหันอย่างไร เวลาที่เลือกแบบบ้านก็ดูที่แปลนบ้านว่าเหมาะสมตรงกับหลักฮวงจุ้ยหรือไม่ ซึ่งถ้าพอจะมีหลักแน่ชัดอยู่แล้วก็จะช่วยให้ตัดตัวเลือกที่ไม่ตรงใจออกไปได้

กฎหมาย : หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้ใส่ใจถึงข้อนี้ แต่ก่อนจะสร้างบ้านเราจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตก่อน ซึ่งข้อกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างบ้านนั้นก็มีรายละเอียดปลีกย่อยอยู่มาก อาทิ หากถนนสาธารณะกว้างน้อยกว่า 10 เมตรให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 6 เมตร รายละเอียดเกี่ยวกับขนาด ความสูงและและอื่น ๆ เหล่านี้สำคัญมาก หากไม่มีผู้ให้คำปรึกษาด้านนี้ก็ควรต้องศึกษากฎหมายให้รัดกุม หรืออาจจะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ช่วยจัดการและให้คำปรึกษาในเรื่องแบบบ้านและการสร้างบ้านให้เหมาะสม ถูกต้อง เพื่อไม่ต้องเกิดปัญหาในภายหลัง

สำหรับใครที่กำลังมองหาแบบบ้านสวย ๆ อยู่ นอกจากลองนำ เทคนิคเลือกแบบบ้านให้ตรงใจ ไปใช้แล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้แบบที่โดนใจขอแนะนำแบบบ้าน สไตล์รีสอร์ท ที่ร่มรื่น ทันสมัย สามารถมาชมตัวอย่าง แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ของบริษัท อยุธยาสร้างบ้าน ไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ของคุณได้นะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติได้รับความนิยมทั้งในเมืองไทยบ้านเราและต่างประเทศ เพราะว่ามลพิษในเมือง ความเครียด ความเร่งรีบล้วนส่งผลกับทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ผู้คนจึงโหยหาการเดินทางเพื่อพักผ่อนท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดีอากาศบริสุทธิ์ เหมือนกับการได้ดีท็อกซ์กายใจไปพร้อม ๆ กัน

สาเหตุหลักๆ ของมลพิษคงหนีไม่พ้นเรื่องของฝุ่นควันที่มีมากขึ้นทุกวัน และแน่นอนมากจากควันเสียของรถยนต์ แล้วจะดีแค่ไหนหากเราได้ลองสัมผัสชีวิตที่ไม่มีถนน ไม่มีมลพิษ เพียงแค่พายเรือไปช้าๆ เหมือนย้อนกลับไปสมัยอยุธยาในเวอร์ชั่นยุโรป ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

Giethoorn หมู่บ้านไร้ถนน ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

หากพูดถึงธรรมชาติที่สวยงามเนเธอร์แลนด์ หรืออีกชื่อที่คุ้นเคยว่าฮอลแลนด์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับความนิยมในเรื่องการเที่ยวธรรมชาติ รวมถึงได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งจักรยานของโลก และถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ไม่มีภูเขาแต่ก็มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่าง ทุ่งทิวลิป ทุ่งกังหัน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางกันมาจากทั่วทุกมุมโลก

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเหล่านี้แล้ว ประเทศที่มีแผ่นดินกว่า 60% อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลแห่งนี้ยังมี “หมู่บ้านไร้ถนน” ที่เปิดให้ผู้คนได้สัมผัสวิถีชีวิต Slow life ด้วยการล่องเรือกว่า 7.5 กิโลเมตร โดยไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวน ให้ได้ผ่อนคลายและท่องเที่ยวธรรมชาติได้อย่างแท้จริง เพียงเดินทางจากเมืองหลวงเพียง 2 ชั่วโมงก็จะได้หลบความวุ่นวายไปผ่อนคลายกับธรรมชาติแห่งนี้แล้ว

Giethoorn หมู่บ้านไร้ถนน ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

หมู่บ้านไร้ถนนนี้มีชื่อว่า Giethoorn (กีธูร์น) ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และ Steenwijk มีจุดเด่นตรงที่ไม่มีถนนในการเดินทาง มีเพียงแค่สะพานไม้และลำคลอง เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลน (Peat) โดยบริเวณที่ถูกขุดก็กลายเป็นทางน้ำไหล จึงทำให้คนในสมัยก่อนเริ่มใช้เส้นทางน้ำนี้เพื่อการขนส่งถ่านหินนั่นเอง

ส่วนในปัจจุบันผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านนี้จะเป็นชาวไร่ที่ค่อนข้างมีฐานะ ทำให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์ เป็นกระท่อมที่ตกแต่งสวยงามตามฉบับเนเธอร์แลนด์

การเดินทางในหมู่บ้านนี้แน่นอนว่าบ้านทุกหลังจะมีเรือส่วนตัวเพื่อการเดินทาง ส่วนบรรดานักท่องเที่ยวก็สามารถเดินสัมผัสธรรมชาติ ขี่จักรยานเลียบริมคลอง หรือนั่งเรือชมทัศนียภาพของที่นี่ก็สามารถทำได้ ซึ่งการใช้ชีวิตริมน้ำแบบนี้ทำให้ที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์

Giethoorn หมู่บ้านไร้ถนน ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

โดยตามทางของหมู่บ้านก็จะมีร้านขายของ พิพิธภัณฑ์ ร้านกาแฟ ให้ได้นั่งพักผ่อน ถ่ายภาพชิคๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ แบบไร้เสียงเครื่องยนต์กันตลอดทาง สำหรับใครที่ต้องการจะใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ ที่นี่ก็มีโฮมสเตย์เปิดให้บริการอีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางมายังหมู่บ้านไร้ถนน คือฤดูใบไม้ผลิคาบเกี่ยวกับฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่ อากาศกำลังดี และมีดอกไม้ที่ผลิบานสะพรั่งทั่วบริเวณริมสองฝั่งคลอง ทั้งนี้สามารถจองทัวร์ท้องถิ่น ที่พัก หรือเรือท่องเที่ยวล่วงหน้าได้ที่ giethoorntourism.com

เรียกได้ว่าการได้ไปสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นของเมืองไร้ถนนของเนเธอร์แลนด์ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจสำหรับทริปพักผ่อน เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมสวยงาม สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร และยังมีที่เที่ยวธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ เดินทางไม่ลำบาก ถือเป็นอีกประสบการณ์ท่องเที่ยวที่คุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ

ใช้งบคุ้มค่าเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะงบประมาณในการสร้างบ้านเป็นปัจจัยสำคัญจะได้บ้านหลังใหญ่ วัสดุแบบไหน ตกแต่งอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของงบประมาณที่ตั้งไว้แทบทั้งสิ้น หลายๆ ครั้งที่คนสร้างบ้านจะเกิดปัญหางบประมาณบานปลาย ภายหลังจากเริ่มก่อสร้างไปแล้ว ซึ่งก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะต้องยอมจ่ายเพื่อให้งานดำเนินต่อไปจนเสร็จ

จะดีกว่าไหมหากเราสามารถควบคุมงบประมาณในการสร้างบ้านให้คุ้มค่า ได้บ้านสวยตามความต้องการอย่างที่ตั้งใจไว้ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

 

• วางแผนก่อนการสร้าง

คิดจะสร้างบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สามารถตัดสินใจได้ในไม่กี่วัน ระยะเวลาของการวางแผนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่เราจะใช้เพื่อศึกษาข้อมูลไปพร้อม ๆ ถามความต้องการของตัวเองและคนในครอบครัวถึงรูปแบบ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็น ซึ่งในขั้นระดมความคิดนี้ ก็จะช่วยให้ทุกคนได้ออกความคิดเห็น เลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้มากที่สุด

สำหรับในขั้นการวางแผนนี้ควรตรวจเช็คหลายๆ ครั้ง ถึงความจำเป็นของฟังก์ชัน เพราะว่าอาจจะมีบางส่วนที่สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อให้ประหยัดพื้นที่ และควรมีแผนสำรองเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนในบางส่วนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ชาวบ้านธรรมดาๆ อย่างเราก็คงไม่รู้พื้นฐานทางด้านวิศวกรรม หรือการออกแบบมากนัก ว่าส่วนไหนควรจะเลือกใช้วัสดุอย่างไร หรือต้องแบ่งฟังก์ชันการใช้งานอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักการ ดังนั้นการหาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ก็เป็นเรื่องจำเป็น แม้ว่าอาจจะมีราคาที่ต้องจ่ายแต่คุณก็จะได้ตัวช่วยที่ดีสำหรับบ้านหลังใหม่ เพราะว่าพวกเขาจะสามารถให้คำแนะนำและช่วยควบคุมงบในการสร้างบ้านได้ตามที่ต้องการ

• เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน

แน่นอนว่าการเลือกใช้วัสดุที่มีราคาจะทำให้บ้านของคุณดูสวยงามและมีความแตกต่าง อาทิ การใช้หินขัดมัน หรือไม้ราคาแพง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้ราคาของการสร้างนั้นเพิ่มขึ้น หากคุณมีงบประมาณจำกัด ลองเปลี่ยนมาเป็นวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น หรือวัสดุสังเคราะห์ ที่มีราคาถูกกว่าแต่มีคุณสมบัติที่แข็งแรงใกล้เคียงกัน ในขณะเดียวกันก็สามารถดัดแปลงโครงสร้างและการตกแต่งให้เป็นแบบเฟอร์นิเจอร์ หรือมีฟังก์ชันการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากปกติก็จะช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมและใช้งานได้แบบ 2 in 1

• ลดการตกแต่งที่ไม่จำเป็น

บางคนอาจจะชอบการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในทุกมุม เพื่อให้บ้านดูไม่น่าเบื่อ ซึ่งบางครั้งของตกแต่งเหล่านี้ก็มีราคาที่อาจจะทำให้คุณต้องสูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ ในช่วงแรกของการสร้างยังไม่ควรจะใช้ของตกแต่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เราสามารถนำมาติดตั้งในภายหลังได้ ก่อนตัดสินใจจึงควรใช้เวลาในการไตร่ตรองก่อนการซื้อให้มากขึ้นด้วย รวมถึงยังมีอีกทางเลือกคือการ D.I.Y สร้างสรรค์สิ่งตกแต่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง นอกจากจะประหยัดงบประมาณแล้วยังได้ใช้เวลาสร้างสิ่งใหม่ๆ เก็บไว้ด้วยตัวเองด้วย

• เลือกใช้บ้านสำเร็จ

ไม่ต้องกังวลถึงราคาที่จะเพิ่มเติมอีกต่อไป เพียงแค่มีงบประมาณที่ตั้งไว้และเลือกแบบบ้านที่ตรงกับความต้องการ บริษัทรับสร้างบ้านก็พร้อมจะจัดการให้เราไปซะทุกอย่าง ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาหากเราต้องการปรับเปลี่ยนในบางส่วนด้วย โดยคนที่ไม่อยากปวดหัวในขั้นตอนการเตรียมงาน คุมงานแล้วล่ะก็ การเลือกใช้บ้านสำเร็จก็เป็นทางเลือกที่ดี และช่วยประหยัดงบประมาณให้คุณได้เป็นอย่างดีด้วย

ไม่ยากเลยใช่ไหมกับการคุมงบประมาณให้เป็นไปตามต้องการ เพียงแค่เรารู้ความต้องการของตัวเอง และละเอียดรอบคอบในขั้นตอนต่างๆ เท่านั้นเอง ใครที่กำลังจะสร้างบ้านก็อย่าลืมวางแผนกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้บ้านในฝันสมบูรณ์แบบและราคาไม่แรงจนเกินไป