มัดรวม! ภูมิปัญญาแบบไทยที่ซ่อนอยู่ในการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท

 

แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท เป็นแบบบ้านในฝันยอดนิยมติดอันดับมายาวนาน เพราะเป็นแบบบ้านที่เน้นบรรยากาศผ่อนคลายทั้งภายในและบริเวณรอบบ้าน ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอยู่บ้านพักตากอากาศตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเหมาะกับภูมิอากาศประเทศไทยอีกด้วย เพราะสามารถประยุกต์ภูมิปัญญาของไทยด้านต่างๆ เข้ากับการออกแบบเพื่อให้บ้านเย็น อยู่อาศัยได้อย่างสุขสบาย โดยมีภูมิปัญญาไทยอะไรซ่อนอยู่ในแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

 

ภูมิปัญญาแบบไทยที่ซ่อนอยู่ในการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท

 

1. หลังคา

หลังคาเป็นส่วนที่สัมผัสกับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง หากเราออกแบบจัดการความร้อนได้ดี ก็จะให้บ้านเย็นขึ้นมาก โดยหลังคาแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทมักจะเป็นหลังคาทรงจั่ว ปั้นหยา และมะนิลา ที่มีจุดเด่นเรื่องความสูงของหลังคา ทำให้สกัดกั้นความร้อนไม่ให้ถ่ายเทเข้าสู่ตัวบ้านได้ และยังช่วยระบายน้ำฝนได้อย่างดีอีกด้วย

 

2. ชายคา

การทำชายคาให้ยื่นออกไปมากกว่าปกติเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการสร้างบ้านแบบไทยมายาวนาน เพราะถือเป็นเมืองร้อน การมีชายคายื่นออกไปจะทำหน้าที่ป้องกันแสงแดดที่ทำมุมแนวเฉียงเข้ามาในบ้าน สำหรับทิศที่ต้องให้ความสำคัญในการทำชายคาหรือกันสาด คือ ทิศใต้และทิศตะวันตก เพื่อช่วยป้องกันความร้อนยามบ่าย ไม่ให้ปะทะเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง

 

3. ผนังจากบล็อกช่องลม

ภูมิปัญญาในการดึงประโยชน์จากลมมาใช้ในบ้านให้มากที่สุด ด้วยการต่อบล็อกช่องลมเป็นผนัง นอกจากจะช่วยให้ลมพัดผ่านได้สะดวก ไม่มีอะไรมาขวางทางลมแล้ว ยังเป็นการช่วยพรางสายตาจากเพื่อนบ้านได้อีกทาง ซึ่งบล็อกช่องลมมีหลายแบบหลายราคาให้เลือกใช้

 

4. ใต้ถุนสูง

การยกใต้ถุนสูง เป็นภูมิปัญญาของคนไทยมาแต่โบราณ เพื่อประโยชน์เมื่อเกิดน้ำหลากน้ำท่วมคนในบ้านยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และยามน้ำลดก็ใช้ใต้ถุนบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อน การยกใต้ถุนนี้ยังส่งผลดีมาถึงปัจจุบัน เช่น สามารถดูแลซ่อมบํารุงงานระบบได้สะดวก อีกทั้งงานระบบยังไม่ถูกรบกวนจากความชื้นที่มาจากพื้นดินและใช้เป็นส่วนนั่งเล่นรับลมธรรมชาติเย็นๆ โดยไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้านที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน

 

5. ช่องเปิด

ช่องเปิดในแต่ละห้องควรมีตำแหน่งตรงกันทั้งสองด้านเพื่อให้ลมพัดผ่านได้สะดวก อีกทั้งยังให้ความรู้สึกว่าห้องนั้นดูโล่งสบายและได้แสงธรรมชาติตลอดเวลา โดยขนาดของช่องเปิดมีความสำคัญไม่น้อย หากช่องที่รับลมเข้ามีขนาดเล็กและช่องลมออกมีขนาดใหญ่ จะช่วยให้รับลมได้มาก แต่ถ้าช่องลมเข้ามีขนาดใหญ่แต่ช่องลมออกดูเล็กกว่า ลมจะเข้าสู่ตัวบ้านได้น้อยตามไปด้วย

 

6. ระเบียงบ้าน

ระเบียงบ้านเปรียบเสมือนผนังล่องหนที่ช่วยกันความร้อนเข้าสู่บ้านได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ควรทำระเบียงให้ยื่นออกไปอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อให้เดินสวนกันได้สบาย หรือนั่งเล่นผ่อนคลายได้แบบไม่อึดอัด ส่วนวัสดุปูพื้นระเบียงควรเลือกชนิดกันลื่น ทนแดด และความชื้นได้ดี

 

7. บริบทรอบบ้าน

วางตำแหน่งต้นไม้ให้บังแดดทางทิศตะวันตกและทิศใต้ ช่วยให้บ้านได้ร่มเงา ช่วยกรองความร้อนที่จะเข้ามาสู่ตัวบ้านได้อีกชั้น หรือจะสร้างบ่อน้ำในทิศทางที่ลมธรรมชาติพัดผ่านก็จะทำให้บ้านเย็นขึ้น เนื่องจากลมจะช่วยพัดพาความชื้นจากบ่อน้ำที่ระเหยเป็นไอเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนี้ยังควรปลูกพืชคลุมดินแทนการเทคอนกรีต เพราะพืชคลุมดินจะดูดซับน้ำใต้ดินและระเหยออกทางใบช่วยให้อุณหภูมิผิวดินเย็นลง

 

แบบบ้านสไตล์รีสอร์ททั้งสวย ผ่อนคลาย แถมยังเหมาะกับอากาศร้อนของประเทศเราอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่แบบบ้านสไตล์นี้ได้รับความนิยมต่อเนื่องมายาวนาน สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท ขั้นตอนแรกให้เลือกแบบบ้านที่ถูกใจ และเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีผลงานด้านการสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้รับมอบบ้านสวยตรงปก เสร็จตามกำหนดเวลา งบประมาณไม่บานปลาย และมีการรับประกันผลงานหลังส่งมอบให้ได้อุ่นใจในระยะยาว