บรรยากาศโดยรวมของสวนที่ลงตัว มีส่วนช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัย และจะดียิ่งกว่าหากพื้นที่สวนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยทุกช่วงเวลา สิ่งสำคัญคือนอกจากการดูแลพื้นที่บริเวณนี้ให้สะอาด ปลอดภัยจากสัตว์ร้าย และอันตรายต่างๆ แล้ว พื้นทางเดินที่ดีก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความสวยงามและความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน วันนี้เรามาดูกันว่าหากจะตกแต่งสวนทั้งที ควรเลือกวัสดุปูพื้นแบบไหนให้เหมาะสมที่สุด
ประเภทของวัสดุปูพื้นทางเดินมีอะไรบ้าง
1. วัสดุปูพื้นทางเดินจากธรรมชาติ
วัสดุทางเดินที่จัดอยู่ในประเภทนี้ได้แก่ ศิลาแลง หินภูเขา หินทราย ไม้หมอน หินกราบ หินแกรนิต มักถูกใช้ในการปูทางเดินสวยที่ต้องการความสวยงามตามธรรมชาติ เช่นสวนสไตล์ Tropical ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้นาน ทำให้พื้นที่สวนมีความร่มรื่น
ข้อจำกัดของวัสดุปูพื้นจากธรรมชาติคือมีขนาดหนาบางไม่เท่ากัน บางชนิดแตกหักหรือเสียหายง่าย บางชนิดก่อให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่าย รวมทั้งบางชนิดยังเริ่มหาซื้อได้ยาก ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุประเภทนี้จึงมักใช้เพื่อแต่งแต้มให้เกิดความสวยงาม และมักปูในจุดที่ไม่ต้องรองรับน้ำหนักมากนัก
2. วัสดุปูพื้นทางเดินแบบสำเร็จ
เป็นวัสดุปูพื้นทางเดินที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดแทนวัสดุจากธรรมชาติ ทำจากซีเมนต์ผสมหิน ทราย และน้ำ แล้วเข้ากระบวนการอัดขึ้นรูปให้เป็นทรงต่างๆ เช่น แผ่นทางเดินซีเมนต์ แผ่นหินสังเคราะห์
วัสดุปูพื้นประเภทนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ติดตั้งง่าย ราคาถูกกว่าแบบจากธรรมชาติ และด้วยขนาดที่มีมาตรฐานทำให้สามารถคำนวนจำนวนการใช้งานต่อพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ และควบคุมงบค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้
ทำความรู้จักคุณสมบัติของวัสดุปูพื้นทางเดิน
• อิฐมอญ
เป็นวัสดุปูพื้นทางเดินที่อยู่คู่สวนมานาน สมัยก่อนนิยมนำไปจัดตามสวนเมืองร้อน เนื่องจากให้ความรู้สึกที่ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ และมีราคาที่ไม่ค่อยแพงมากนัก รวมทั้งด้วยคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บความชื้นได้ดี จึงทำให้ในพื้นที่สวนนั้นร่มรื่น เย็นสบาย
ปัจจุบันอิฐมอญมักถูกนำมาใช้ในการตกแต่งสวนสไตล์ English Cottage ซึ่งจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย แต่ข้อควรระวังคือไม่ควรจัดวางในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพราะจะทำให้เกิดตะไคร่ได้ง่าย
• หินธรรมชาติ
หินธรรมชาติช่วยสร้างบรรยากาศสวนที่ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ ทำให้เกิดความผ่อนคลายยามเมื่อเข้ามาให้พื้นที่ ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมในการนำมาปูพื้นทางเดิน โดยการใช้หินธรรมชาติปูนั้นจะเว้นระยะห่างระหว่างหินแต่ละก้อนให้มีช่องว่างสำหรับปลูกไม้คลุมดินต้นเล็กๆ สลับไปด้วย เพื่อสร้างความสวยงามและกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งนี้หินธรรมชาติที่นิยมใช้คือ หินภูเขา และหินกาบ
• หินทราย
หินทรายเป็นวัสดุที่ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการปูพื้นทางเดิน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม และมักใช้คู่กับสวนที่มีกรวดเป็นส่วนประกอบ เช่น สวนญี่ปุ่น และสวนสไตล์โมเดิร์น
หินทรายแม้ได้รับความนิยมไม่ต่างจากวัสดุชนิดอื่น แต่ก็มีข้อเสียคือทำความสะอาดได้ยาก จึงไม่ควรจัดแต่งไว้บริเวณใต้ต้นไม้ที่มียางเยอะ
• ไม้และไม้สังเคราะห์
การใช้ไม้ปูพื้นจะให้สัมผัสและความรู้สึกแบบธรรมชาติได้อย่างดี แต่การใช้ไม้ปูพื้นนั้นไม่ควรปูในระดับเดียวกับพื้นดิน โดยควรปูยกสูงขึ้นอย่างน้อย 25 cm. เพื่อป้องกันความชื้นจากดินทำให้ไม้ผุพังเร็ว รวมทั้งยังควรหมั่นดูแลพื้นไม้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาเนื้อไม้และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
ส่วนไม้สังเคราะห์หรือไม้เทียม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนรักฟิลแบบธรรมชาติเลือกใช้เพื่อทดแทนการใช้ไม้ โดยจะมีคุณสมบัติที่ทนทานกว่า แต่ให้ความสวยงามเสมือนธรรมชาติ สร้างบรรยากาศอบอุ่นเคล้าความร่มรื่นไปได้ในตัว
• ไม้หมอนรองรางรถไฟ
เป็นวัสดุที่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นทางเดินในสวนได้ เนื่องจากไม้หมอนรองรถไฟนั้นทำมาจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้มะค่า ทำให้เมื่อนำมาปูจะให้ความแข็งแรงที่มากกว่าไม้ปกติทั่วไป ทั้งยังให้ความเป็นธรรมชาติอีกด้วย
• แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป
เป็นอีกสัดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะเป็นแผ่นที่ขนย้ายได้ง่าย รวมทั้งผิวสัมผัสและสีที่ลงตัวกับการจัดแต่งสวน โดยเฉพาะสไตล์โมเดิร์น โดยทั่วไปมักใช้ปูเป็นลานทางเดิน แล้วเว้นช่องว่างระหว่างแผ่นไว้เพื่อโรยกรวดหรือปลูกไม้คลุมดิน เพิ่มความรู้สึกร่มรื่น และช่วยให้มีการระบายน้ำได้ดีขึ้น
การเลือกใช้วัสดุต่างๆ ตกแต่งพื้นทางเดินให้เหมาะสม ต้องเริ่มที่การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ หากออกแบบได้อย่างดีและเลือกวัสดุที่เหมาะสม จะช่วยให้บ้านนั้นน่าอยู่ด้วยสวนสวยและปลอดภัย และลดปัญหาจุกจิกตามมาภายหลัง ทั้งยังผ่อนแรงในการดูแลระยะยาว