เทคนิคปรับแต่งแบบบ้านเย็นสยบร้อน

 

เสน่ห์ของบ้านสไตล์รีสอร์ท คือบรรยากาศของบ้านและองค์ประกอบโดยรวมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเสมือนได้พักผ่อนในบ้านตากอากาศส่วนตัว ดังนั้นการตกแต่งบ้านให้อยู่เย็นอยู่สบาย ไร้ปัญหาความร้อนรบกวนทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน จึงมีส่วนทำให้การอยู่อาศัยมีคุณภาพมากขึ้น มาดูกันว่า AYB มีเทคนิคปรับแต่งบ้านเย็นสยบร้อนเกี่ยวกับอะไรมาฝากกันบ้าง

1. ผังบ้านเหมาะสมกับลมฟ้าอากาศ

สิ่งสำคัญของการเริ่มต้นปรับแต่งบ้านเย็นสยบร้อนคือการรู้จักผังบ้าน ดูตำแหน่งทิศทางลมและแสงแดดที่เข้าถึงตัวบ้าน เพื่อวางตำแหน่งการจัดห้อง การจัดพื้นที่ใช้สอย และสวน ให้สัมพันธ์ระหว่างกัน และสัมพันธ์กับสภาพภูมิอากาศแต่ละช่วงเวลา โดยช่วงเวลาของทิศทางแสงแดดเป็นดังนี้

• ช่วงเช้ารับแสงแดดอ่อนๆ ทางทิศตะวันออก แล้วค่อยๆ ไล่ไปทางทิศใต้ ก่อนจะสิ้นสุดที่ทิศตะวันตก พร้อมความร้อนของแสงแดดที่ค่อนข้างร้อนขึ้น ทำให้มุมของบ้านที่รับแสงและอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นโดยตรงคือมุมทางทิศใต้และทิศตะวันตก ดังนั้นห้องที่ควรวางในมุมทิศใต้และตะวันตก ควรเป็นห้องที่ต้องการกำจัดความชื้น เช่น ห้องครัว หรือห้องซักล้าง
• ส่วนทิศเหนือถือเป็นทิศที่โดยรวมแล้วได้รับแสงแดดน้อยที่สุดในรอบปี เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่นที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมเป็นเวลานานๆ

 

2. ช่องระบายอากาศทั่วถึงช่วยถ่ายเทความร้อน

บ้านสไตล์รีสอร์ทมักเน้นให้ตัวบ้านมีช่องเปิดเพื่อระบายความร้อน พร้อมถ่ายเทอากาศ ทำให้บ้านเต็มไปด้วยความร่มเย็น และอุณหภูมิโดยรอบเย็นสบาย ทั้งนี้สำหรับการปรับแต่งบ้านอาจเติมช่องระบายหรือวางตำแหน่งประตูหน้าต่างให้อยู่ในทิศทางที่เปิดรับลมได้อย่างลงตัว โดยลมธรรมชาติจากทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมีระยะเวลายาวนานประมาณ 9 เดือน ส่วนลมจากทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน

 

3. เพิ่มตัวช่วยป้องกันความร้อน

การสร้างบรรยากาศบ้านให้เย็นน่าอยู่ นอกจากการปรับแต่งกับตัวบ้านแล้ว ยังสามารถเสริมด้วยตัวช่วยต่างๆ เช่น

• ติดฉนวนกันร้อนไว้ใต้หลังคา เพื่อสะท้อนความร้อนผ่านช่องระบายบริเวณหลังคา
• ติดฉนวนกันร้อนไว้ใต้หลังคา เพื่อสะท้อนความร้อนผ่านช่องระบายบริเวณหลังคา
• เลือกสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติกันความร้อน มีคุณสมบัติสำหรับทาภายนอก และใช้สีโทนอ่อนช่วยสะท้อนความร้อนได้
• ใช้อิฐที่มีคุณสมบัติกันความร้อน พร้อมใช้ระแนงไม้ บล็อกช่องลม เพิ่มพื้นที่ระบายอากาศจากภายในสู่ภายนอก และภายนอกสู่ภายใน ทำให้อากาศไหลเวียนดี
• จัดสวนให้บรรยากาศโดยรวมดูร่มรื่นร่มเย็น โดยเจ้าของบ้านสามารถเลือกปลูกต้นไม้ที่เป็นไม้ยืนต้น หรือไม้ที่ให้ร่วมเงาทั้งกับตัวบ้าน และไม้ที่เป็นแบบคลุมดินช่วยรักษาความชื้นไว้ได้นาน รวมถึงวัสดุปูพื้นทางเดินในสวนที่มาจากธรรมชาติอย่างไม้หมอนรองรถไฟ หรือหิน และกรวด นอกจากนี้ยังมีส่วนของบ่อเลี้ยงปลาสวยงาม น้ำพลุ หรือน้ำตกที่ช่วยเสริมให้พื้นที่สวนดูร่มเย็นน่าพักผ่อนมากขึ้น

 

4. หลังคาทรงสูงช่วยบ้านเย็น

หลังคาเป็นส่วนที่สูงที่สุดของบ้าน และเป็นปราการแรกที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดทุกช่วงเวลา การออกแบบหรือปรับแต่งให้บ้านมีบรรยากาศเย็นสบาย รูปแบบหลังคาจึงควรเลือกที่เป็นทรงสูงโปร่ง เพื่อให้มีพื้นที่ว่างใต้หลังคา พร้อมเพิ่มช่องระบายใต้หลังคา เพื่อให้อากาศภายนอก-ภายใน ไหลเวียนดี ไม่สะสมความร้อน

 

ความร้อนเป็นปัญหาระยะยาวที่พบเจอได้ในทุกๆ วัน แต่ก็สามารถเลี่ยงได้ด้วยเทคนิคการออกแบบ ตกแต่งบ้านให้มีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่กันความร้อน ระบายความร้อน และกำจัดความร้อนได้ จึงช่วยให้บ้านสไตล์รีสอร์ทเป็นบ้านที่สามารถใช้อยู่อาศัยระยะยาวได้อย่างไม่ถูกรบกวน