เป็นสิ่งสำคัญที่การสร้างบ้าน ต้องสร้างตามใจผู้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้าน สไตล์การตกแต่ง การเลือกใช้ฟังก์ชันต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่ แต่บ้านนั้นจะสวยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นหากแบบบ้านและการตกแต่งนั้นมีแนวทางที่ชัดเจน ให้ความรู้สึกที่ดียามเมื่อมองด้วยตาเปล่า และมีความสุขผ่อนคลายยามพักอาศัย
อย่างบ้านสไตล์รีสอร์ทที่บริษัท อยุธยา สร้างบ้าน จำกัด (AYB) มีประสบการณ์การสร้างมาเป็นเวลาหลายปีโดยเน้นการออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของบ้านเป็นหลัก เพื่อให้บ้านนั้นเป็นบ้านแห่งการพักอาศัยอย่างแท้จริง
มาดูกันว่า…กว่าจะเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ทที่สมบูรณ์แบบ มีมาตรฐานตามแบบของ AYB นั้นมีอะไรบ้าง
10 สิ่งต้องมี! ในการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท
1. มีที่ว่างปราศจากอาคารไม่ต่ำกว่า 30%
บ้านสไตล์รีสอร์ทไม่จำเป็นต้องอยู่ต่างจังหวัดที่มีภูเขา ทะเล ต้นไม้ หรือในสถานที่ท่องเที่ยว แต่สามารถจำลองบรรยากาศของรีสอร์ทมาไว้ในบ้านได้แม้อยู่กลางเมือง แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านนั้นเป็นสไตล์รีสอร์ทคือต้องมีพื้นที่ว่างที่ปราศจากอาคารไม่ต่ำกว่า 30%
โดยการคำนวนแบ่งสัดส่วนพื้นที่นั้น คำนวนจากที่ดินที่ใช้สร้างบ้าน แล้วแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับตัวบ้าน (วัดพื้นที่จากชั้นล่างของบ้าน) 70% ส่วนอีก 30% จะเป็นพื้นที่ในการตกแต่งสร้างบรรยากาศให้เป็นสไตล์รีสอร์ท โดยอาจประกอบไปด้วยพื้นที่สวน สนามหญ้า เนินดิน ต้นไม้ สระว่ายน้ำ และฟังก์ชันที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
2. มีทางเข้าบ้านมีบรรยากาศแบบธรรมชาติ
บ้านสไตล์รีสอร์ทจะทำให้คุณสัมผัสความเป็นธรรมชาติได้ตั้งแต่บริเวณทางเข้าบ้าน ไม่ว่าจะทางเดินหรือทางรถวิ่ง โดยจะประกอบไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติที่ตาสัมผัสเห็น เช่น ความสวยงามของการจัดแต่งสวน สวนหิน สวนน้ำ เสียงธรรมชาติที่หูรับรู้ได้ ไม่ว่าจะเสียงน้ำ ลม เสียงการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ หรือกลิ่นของธรรมชาติที่ทำให้เกิดความสดชื่น เหล่านี้จะทำให้บรรยากาศนั้นดูมีมิติ มีความร่วมรื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขทุกครั้งเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน
3. มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมที่สมาชิกใช้งานได้ทั้งวันในบรรยากาศธรรมชาติ
บ้านรีสอร์ทเฮ้าส์เน้นการสร้างเพื่อให้สมาชิกทุกคนได้พักผ่อน และทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ในพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้ ดังนั้นการกำหนดฟังก์ชันในพื้นที่ทำกิจกรรมส่วนกลางนั้นจะต้องรู้ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่ามีความชอบอะไร มีความชอบไหนที่เหมือนหรือสามารถทำร่วมกันได้
ทั้งนี้การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทที่มีเสน่ห์คือ การออกแบบพื้นที่สำหรับวางฟังก์ชันส่วนกลางนั้นอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม สมาชิกสามารถใช้งานและทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ให้ความความผ่อนคลายด้วย
ธรรมชาติ จากสายลม และแสงธรรมชาติ โดยไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนมารบกวน
4. มีการออกแบบให้ทุกฟังชันในบ้านมีช่องเปิดเห็นธรรมชาติภายนอก
บ้านสไตล์รีสอร์ทควรมีการออกแบบให้ทุกห้องมีช่องเปิดให้เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถตกแต่งบรรยากาศ ให้มีความเป็นธรรมชาติตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ มีความร่มรื่น ให้ความรู้สึกสดชื่น เช่น บ่อน้ำ บ่อเลี้ยงปลา สวนหิน ลานกิจกรรมภายนอก ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเสมือนการไปพักที่รีสอร์ท
5. บริเวณห้องน้ำมีพื้นที่สีเขียว มีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ
ห้องน้ำสำหรับบ้านสไตล์รีสอร์ทจะทำให้คุณเข้าถึงธรรมชาติได้โดยมีช่องเปิดให้รับแสงธรรมชาติได้และมีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้แต่งแต้ม เพราะบางคนอาจใช้เวลาในการอยู่ห้องน้ำนานๆ การมีช่องเปิดจะช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ขณะเดียวกันก็ยังให้ความเป็นส่วนตัว มีการบังตาด้วยการตกแต่งที่ลง
ทั้งนี้ห้องน้ำสไตล์รีสอร์ทที่ถูกสร้างให้มีช่องเปิดรับแสงธรรมชาตินั้นจะมีข้อดีคือ ห้องน้ำมีการถ่ายเทของอากาศที่ดี มีแสดงแดดเข้าถึง จึงไม่มีกลิ่นอับและไม่สะสมความชื้น
6. ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว แต่มีช่องแสงรับธรรมชาติได้
สำหรับหลายๆ อาจไม่ได้ใช้ห้องนอนเพื่อการนอนหลับเพียงอย่างเดียว แต่อาจใช้เวลาในการพักผ่อนเพื่อดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือสร้างความผ่อนคลาย ดังนั้นห้องนอนของบ้านสไตล์รีสอร์ทที่ดีจึงต้องมีการเปิดช่องแสงเพื่อให้ได้บรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ หรือบางบ้านอาจสร้างห้อนนอนเป็นห้องนอนใหญ่และอยู่ติดสวนธรรมชาติที่มีความเป็นส่วนตัว และไม่ถูกรบกวนจากบุคคลอื่น
7. มีลานพักผ่อนภายนอกประสานกับสวนภายนอก และพื้นที่กิจกรรมภายใน
บ้านสไตล์รีสอร์ทแบ่งพื้นที่หลักๆ เป็น 3 ส่วนคือ พื้นที่ภายในบ้าน พื้นที่ภายนอกบ้าน และลานกิจกรรมส่วนกลาง โดยพื้นที่ลานกิจกรรมส่วนกลางนั้นจะมีความเป็นธรรมชาติ ทำหน้าที่เชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายใน มีฟังก์ชันที่สมาชิกสามารถใช้งานตามไลฟ์สไตล์ร่วมกันได้อย่างไม่มีสะดุด
8. มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาในลานกิจกรรมส่วนกลาง
บ้านรีสอร์ทเฮ้าส์จำเป็นต้องมีต้นไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการเสริมต้นไม้เข้าไปในการตกแต่งจะต้องมีต้นไม่ต้นหลักที่มีความใหญ่อยู่ในบริเวณที่เป็นพื้นที่กลางกิจกรรม สามารถให้ร่มเงากับตัวบ้านและพื้นที่ลานกิจกรรมส่วนกลางได้
ในการออกแบบบ้านหากที่ดินมีต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่อยู่แล้ว การออกแบบบ้านจะพยายามสร้างบ้านให้โอบล้อมต้นไม้ต้นนั้น และให้ต้นไม้อยู่ตรงกลางบริเวณพื้นที่กิจกรรม ที่เชื่อมโยงลับพื้นที่ฟังก์ชันการใช้งานภายใน แต่หากที่ดินไม่มีต้นไม้ การออกแบบบ้านจะวางตำแหน่งให้มีต้นไม้ เพื่อเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางให้ความเป็นธรรมชาติ ทำให้การอยู่อาศัยภายในมีชีวิต มีความร่มรื่น ความผ่อนคลายมากขึ้น
9. มีการออกแบบบรรยากาศให้มีเสียงของธรรมชาติ
การอยู่อาศัยในบ้านสไตล์รีสอร์ทอย่างมีความสุขและผ่อนคลายนั้น ไม่ใช่มีเพียงแค่สิ่งที่ตามองเห็นหรือจับต้องได้ แต่ยังมีความผ่อนคลายจากการมองเห็นและการได้ยิน ที่มองไปแล้วรู้สึกสบายตา มีเสียงน้ำไหล เสียงสายลม เสียงการขยับตัวของใบไม้ใบหญ้า เสียงกระดิ่ง และเสียงเพลง เสียงดนตรีคลอเบาๆ จะช่วยเสริมบรรยากาศให้บ้านมีความผ่อนคลายมีความเป็นรีสอร์ทเฮ้าส์มากขึ้น
10. มีมุมทำงานที่ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
บ้านอาจถูกจำกัดความให้เป็นที่พักอาศัยและพักผ่อน แต่หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะต้องมีพื้นที่สำหรับทำงาน และหลายคนอาจใช้เวลาทำงานที่บ้านมากกว่าที่ทำงานด้วย
ดังนั้นจึงต้องมีการออกแบบพื้นที่ในบ้านให้มีมุมทำงานที่ทำให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างมีความสุข มีช่องเปิดที่ทำให้เห็นบรรยากาศภายนอก มีแสงสว่างเพียงพอ และมีความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย เสริมให้มีแรงบันดาลใจและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
การสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท ไม่ใช่เพียงแค่สร้างแล้วระบุว่าเป็นสไตล์รีสอร์ทแล้วจะได้ความผ่อนคลายจากบรรยากาศรีสอร์ทอย่างแท้จริง เพราะสิ่งสำคัญที่เสริมให้บ้านสไตล์รีสอร์ทนั้นมีความสมบูรณ์อย่างแท้จริงคือ ส่วนประกอบของการออกแบบทั้ง 10 ข้อดังกล่าวข้างต้นที่จะต้องมี เพื่อทำให้เรารู้สึกถึงการความสุขในอยู่อาศัยเสมือนพักผ่อนในรีสอร์ททุกๆ วัน
เรื่องโดย : คุณธีร์ บุญวาสนา ผู้บริหาร บริษัทอยุธยา สร้างบ้าน จำกัด