ไม้ วัสดุที่ได้รับความนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้าง และตกแต่งบ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน มีลวดลายและตามธรรมชาติที่ให้ความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งยังสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น น่าอยู่ และเข้าถึงธรรมชาติ
ความหลากหลายเนื้อไม้และประเภทของไม้ ยังทำให้ผู้ต้องการสร้างบ้านมีทางเลือกในการเลือกใช้ไม้ให้เหมาะกับแบบบ้าน และการตกแต่ง และวันนี้ AYB จะพาคุณไปพบคุณสมบัติที่แตกต่างกันของไม้แต่ละประเภท รวมถึงการเลือกใช้ไม้ให้เหมาะสมกับงานสร้าง
ประเภทไม้ที่นิยมใช้สร้างบ้าน
1. ไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็งมีระยะเวลาในการเติบโตค่อนข้างนาน ลักษณะเนื้อไม้จะมีวงปีมากกว่าไม้ชนิดอื่น และการจะนำไม้เนื้อแข็งมาใช้งานจะต้องรอระยะเวลาให้ไม้เติบโตจนมีอายุมากพอ เพื่อให้เนื้อไม้มีความแข็งแรงทนทานเหมาะกับงานที่ใช้
ไม้ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีสีของเนื้อไม้ค่อนข้างเข้ม มีความเหนียวและแข็งแรงมาก แต่ก็มีข้อเสียคือ เมื่อเกิดความชื้น ร้อน หรืออุณหภูมิมีความเปลี่ยนแปลงจะทำให้ไม้เกิดการบิดตัว หด และขยายตัวไปจากเดิมได้
ไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้สร้างบ้าน
• ไม้เต็ง มีสีน้ำตาลอ่อน เนื้อไม้ค่อนข้างหยาบ และมีความแข็งทำให้ตัดแต่งได้ยาก จึงไม่นิยมนำมาใช้กับงานภายในเพราะมีผิวที่หยาบและลายไม้ไม่สวยงาม โดยงานที่เหมาะกับไม้ชนิดนี้คือ คาน เสา วงกบ ตง ประตู หน้าต่าง
• ไม้รัง มีสีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อหยาบ นิยมใช้ในงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น เสา พื้น คาน แต่ในปัจจุบันไม้รังค่อนข้างมีราคาแพง และหาได้ยาก จึงไม่ค่อยเห็นในงานก่อสร้าง
• ไม้แดง มีสีน้ำตาลอมแดง ลายไม้มีความชัดเจน สีสันสวยงาม แต่มีราคาค่อนข้างแพง มักใช้ในงานโครงสร้างที่ต้องการโชว์เนื้อไม้ชัดเจน เช่น พื้น วงกบประตู หน้าต่าง
• ไม้มะค่า มีสีน้ำตาลอมส้ม เนื้อไม้มีความแข็งแรงมาก สีและลวดลายมีควมาสวยงามเป็นเอกลักษณ์ จึงมีราคาแพงกว่าไม้ชนิดอื่นๆ และนิยมนำมาใช้ในงานสร้างบ้านเป็นส่วนของพื้นบ้าน พื้นบันได หรือส่วนที่ต้องการโชว์ลวดลายชัดเจน
• ไม้ตะแบก มีสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ลายไม้มีลักษณะคล้ายกับไม้สัก และเป็นไม้ที่ดัดเปลี่ยนรูปร่างได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้งานภายใน เช่น พื้นบ้าน และบานประตู
• ไม้ตะเคียน มีสีเหลืองทองและมีโอกาสเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มเมื่อโดนแสงแดดหรือถูกทิ้งไว้นานๆ เนื้อไม้มีความแข็งแรงสูงมาก จึงนิยมนำมาทำเป็นวงกบ พื้นไม้ ไม้ตะเคียนมีลักษณะเด่นที่ถือเป็นตำหนิเรียกว่า รูมอด เป็นรูเล็กๆ ตามเนื้อไม้ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
2. ไม้เนื้ออ่อน
ไม้เนื้ออ่อนมีระยะในการเติบโตเร็ว ลักษณะของวงปีกว้างทำให้ลายไม้มีน้อยและไม่ละเอียดเท่ากับไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีความแข็งแรงน้อย จึงไม่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักมากๆ และไม่เหมาะที่จะใช้กับงานภายนอก แต่เหมาะกับการทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งมากกว่า
ไม้เนื้ออ่อนที่นิยมใช้สร้างบ้าน
• ไม้สัก มีสีน้ำตาลทอง ลวดลายละเอียดสวยงาม นิยมนำมาใช้งานในส่วนของโครงสร้างหรือส่วนที่ต้องการความสวย เช่น บานประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
• ไม้ยางพารา เป็นไม้ที่โตเร็ว มีจำนวนมาก หาได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังมีความแข็งแรงทนทาน จึงนิยมนำมาใช้งานในส่วนของ ประตู วงกบ พื้นบันได เฟอร์นิเจอร์
• ไม้จำปา มีสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งสามารถย้อมสีได้ง่าย เนื้อไม้มีความละเอียด มีเสี้ยนน้อยแต่ไม่ทนต่อความชื้น เหมาะสำหรับการใช้ในงานภายในอาคาร เช่น ประตู
• ไม้ขนุน มะม่วง ทุเรียน เป็นไม้ที่หาได้ง่าย มีจำนวนมาก จึงทำให้มีราคาถูก เป็นไม้เนื้ออ่อนที่สามารถใช้ไส ตัด ตกแต่งได้ง่าย นิยมใช้ในงาน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
การสร้างบ้านโดยใช้ไม้เป็นองค์ประกอบ แน่นอนว่าต้องใช้ให้เหมาะสมกับแบบ และมีการวางแผนดูแลรักษาเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดจากตัวไม้ และสัตว์รบกวนอย่าง ปลวก ซึ่งอาจส่งผลต่อโครงสร้างบ้านได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการเลือกใช้ไม้ประเภทต่างๆ ได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้มีความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน ให้บรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลายกับผู้อาศัยระยะยาว