ฝ้าเพดาน เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญของบ้าน ที่ช่วยปิดบังพื้นที่บริเวณใต้หลังคาหรือใต้พื้นชั้นบน ทำหน้าที่ช่วยบังสายตาจากสายไฟ รวมถึงงานระบบต่างๆ ที่อยู่ใต้เพดาน นอกจากนี้ฝ้าเพดานยังมีคุณสมบัติเป็นวัสดุกันเสียง และทนไฟได้อีกด้วย การติดตั้งฝ้าเพดานจึงมีประโยชน์ทั้งในแง่การใช้งาน ที่มาพร้อมกับความสวยงามและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในบ้าน ดังนั้นก่อนการสร้างบ้าน หรือออกแบบบ้าน เรามารู้จักฝ้าเพดานแต่ละประเภทให้ลึกซึ้งกันก่อนดีกว่า
ฝ้าเพดานมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร
1. ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ
ฝ้าประเภทนี้มักติดตั้งแบบถาวร โดยเลือกวัสดุแผ่นที่มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย วิธีติดตั้งทำโดยยึดวัสดุแผ่นฝ้าเข้ากับโครงอะลูมิเนียมที่ติดไว้กับโครงหลังคา จากนั้นใช้ปูนฉาบปิดรอยต่อ แล้วทาสีทับฝ้าเพดานทั้งหมดอีกรอบ จึงได้แผ่นฝ้าเรียบเนียนเป็นผืนเดียวกันสวยงาม
2. ฝ้าเพดานแขวน (ที-บาร์)
เป็นฝ้าที่นิยมใช้มาก เพราะติดตั้งง่ายและราคาถูกกว่าแบบอื่นๆ การดูแลรักษาก็ง่าย สามารถเปิดฝ้าขึ้นไปดูแล ซ่อมแซมงานระบบใต้ฝ้าได้ และหากฝ้าชิ้นใดชำรุดก็สามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นเท่านั้น ไม่ต้องรื้อทั้งหมด
ฝ้าชนิดนี้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก หรือห้องที่เน้นการซ่อมบำรุงได้ง่าย ไม่เหมาะกับอาคารสูงๆ เพราะหากเกิดลมพัดแรง หรือเกิดแผ่นดินไหว แผ่นฝ้าเพดานสามารถหลุดลงมาได้ง่าย เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
3. ฝ้าหลุม
ฝ้าหลุมหรือฝ้าเล่นระดับ ทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นดูมีมิติ ดึงดูดสายตา และยังทำให้รู้สึกระยะพื้นถึงฝ้าสูงมากขึ้นด้วย จึงนิยมใช้ฝ้าชนิดนี้สำหรับห้องที่ต้องการความสวยงาม หรูหรา เช่น ห้องรับแขก ห้องประชุม
4. ฝ้าเพดานซ่อนระบบไฟ
ฝ้าชนิดนี้คล้ายฝ้าหลุม แต่เพิ่มช่องใส่หลอดไฟขนาดเล็ก เพื่อให้ห้องได้แสงที่สม่ำเสมอ นุ่มนวล สร้างบรรยากาศ เพิ่มความสวยงามหรูหราให้กับพื้นที่นั้นๆ
5. ฝ้าระแนงหรือฝ้าโปร่ง
ฝ้าประเภทนี้ใช้ตกแต่งเพื่อพรางระบบท่อ และสายไฟต่างๆ แต่ยังมีความโปร่ง ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก สามารถมองเห็นจุดที่จะซ่อมได้ง่าย การติดตั้งฝ้าระแนงให้ความรู้สึกทันสมัย มีดีไซน์ และหากเลือกใช้ระแนงไม้ยังเพิ่มความอบอุ่นได้ด้วย จึงมักนิยมใช้กับ แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท
การเลือกวัสดุสำหรับทำฝ้าเพดาน
1. วัสดุยิปซัม ติดตั้งง่าย
ฝ้าเพดานแผ่นยิปซัม เป็นประเภทฝ้ากระเบื้องแผ่นเรียบประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะติดตั้งง่าย ฉาบปิดรอยได้เนียน และทาสีทับได้ อีกทั้งมีลวดลาย และขนาดให้เลือกที่หลากหลาย มีให้เลือกติดตั้งได้หลายแบบ ข้อดี คือ ราคาไม่แพง สามารถติดตั้งได้ทั้งภายนอก และภายใน ช่วยลดเสียง และลดความร้อนได้ด้วย
ข้อด้อยของฝ้ายิปซัม คือ เนื้อยิปซัมมีโอกาสเปราะหักง่าย ต้องระมัดระวังในการใช้งาน และเลือกซื้อให้เหมาะกับพื้นที่ที่ใช้งาน เพราะบางประเภททนไม่ทนต่อความชื้น
2. วัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์นิยมใช้ในปัจจุบัน
ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือคนทั่วไปเรียกว่าแผ่นฝ้าสมาร์ทบอร์ด ผลิตจากเส้นใยเซลลูโลส ผสมกับปูนซีเมนต์ จึงทำให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี มีให้เลือกหลายขนาด อีกทั้งมีความทนแดด ทนฝน ลดความร้อนเข้าบ้าน ทำให้บ้านเย็น จึงช่วยให้บ้านประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี ปลอดภัยจากปลวก ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก จึงได้รับความนิยมสูง
ข้อด้อยของฝ้าไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ พื้นผิวของไฟเบอร์ซีเมนต์ไม่เนียนเรียบแบบยิปซัม จึงทำให้ทาสีไม่เรียบเนียน และเมื่อนำแผ่นมาต่อกันจะเห็นรอยต่อระหว่างแผ่นชัดเจน แตกต่างกับวัสดุยิปซัม
3. วัสดุไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
ฝ้าเพดานทั้งไม้แท้และไม้เทียม ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ แต่ฝ้าเพดานไม้แท้ เป็นวัสดุที่มีราคาสูง และมีค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงเนื้อไม้สูง จึงมีวัสดุไม้เทียมซึ่งผลิตจากไม้ และเม็ดพลาสติกถูกนำมาใช้ทดแทนกันมากขึ้น เพราะสวยงามเหมือนไม้จริง แต่ดูแลรักษาได้ง่าย และมีราคาต่ำกว่าไม้ธรรมชาติ
ข้อด้อยของฝ้าไม้เทียมพลาสติกคอมโพสิต คือ ไม่เหมาะจะติดตั้งบริเวณที่โดนแดดจัด เพราะสีจะซีดจางลงโดยไม่สามารถทาสีทับได้
4. ฝ้าเพดานไวนิล ไม่ต้องทำสีเพิ่ม
เป็นฝ้ายูพีวีซีที่ผลิตจากอะคริลิกประเภทหนึ่ง มีน้ำหนักเบา ไม่ต้องทำสีเพิ่มเติม เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มักมีความเปียกชื้นตลอดเวลา ถือเป็นหนึ่งในประเภทฝ้าเพดานที่ได้รับความนิยมเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าฝ้าแต่ละชนิดก็มีลักษณะเด่นต่างกัน ดังนั้นใส่ใจเลือกสรร ทั้งเรื่องของวัสดุที่ควรใช้ รวมถึงการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน เพื่อที่ฝ้าเพดานใช้งานเต็มศักยภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน