บ้าน เมื่ออยู่อาศัยใช้งานนานๆ ย่อมมีการเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา และต้องซ่อมแซมแก้ไขในทุกๆ ส่วน แม้แต่บริเวณหลังคา ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านที่ยากต่อการมองเห็นและแก้ไขซ่อมแซม ซึ่งกว่าเจ้าของบ้านจะทราบว่าหลังคารั่วและต้องเปลี่ยนหลังคานั้นปัญหาก็ลุกลามใหญ่โตจนเกินความคาดหมาย ส่งผลเสียต่อตัวบ้านและการอยู่อาศัย ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายบานปลาย ลองมาดูสาเหตุและวิธีการสังเกตความผิดปกติเมื่อหลังคาบ้านมีปัญหาที่เรานำมาฝากกัน
สาเหตุการเกิดปัญหาหลังคารั่ว
• กระเบื้องหลังคาแตก จากการถูกสิ่งของตกใส่ ทำให้หลังคามีรูรั่ว
• อุปกรณ์หลังคาเสื่อมสภาพ หรือโดนสัตว์กัดทำลายเสียหาย เช่น แผ่นปิดรอยต่อ แผ่นกาวติดครอบสันหลังคา
• การติดตั้งหลังคาผิดวิธี รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ผิดมาตรฐานตั้งแต่แรก กรณีนี้เกิดตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างบ้าน จากทีมช่างที่ไม่มืออาชีพ
สัญญาณเตือนปัญหาหลังคา
ระยะเริ่มรั่ว
อาการ : ได้ยินเสียงน้ำไหล หรือเสียงน้ำหยดกระทบกับฝ้าตอนฝนตก มองเห็นรอยคราบน้ำตาลบนฝ้า ซึ่งแม้จะเห็นเพียงเล็กน้อย แต่นั่นแสดงว่าหลังคาจุดนั้นมีการรั่วซึมมาแล้วหลายเดือน เพราะกว่าที่ฝ้าจะเริ่มปรากฏรอยนั้นได้ผ่านการดูดซับน้ำฝนมาหลายรอบทีเดียว แต่ถ้าได้ยินแค่เสียงแต่ไร้คราบ แสดงว่าหลังคาเพิ่งรั่วให้รีบแก้ไขก่อนฝ้าเพดานบวมจนเกิดการทะลุได้
ระยะลุกลาม
อาการ : เกิดรอยคราบน้ำชัดเจนบนแผ่นฝ้า ยิ่งคราบน้ำสีเข้มมากเท่าไรแสดงว่าฝ้าซับน้ำไว้เยอะ เป็นไปได้ว่าฝ้าใกล้ทะลุแล้ว และอาจลุกลามไปยังจุดอื่น นอกจากนี้หากพบว่าเฟอร์นิเจอร์บวม มีกลิ่นอับชื้น และเชื้อราขึ้น ก็เป็นไปได้ว่าหลังคาอาจรั่วซึมในจุดที่ตั้งของเฟอร์นิเจอร์นั้น หรือบางบ้านอาจพบว่าไฟบางดวงเปิดไม่ติด อาจเป็นเพราะมีน้ำไปโดนบริเวณหลอดไฟและเกิดการลัดวงจรทำให้ไฟดับ
ระยะรุนแรง
อาการ : ระยะนี้ถือว่าสาหัสที่สุด โดยจะมีรอยคราบน้ำสีน้ำตาลเข้มชัดเจนในหลายจุด และมีน้ำไหลลงมาตามผนัง หรืออาจถึงขั้นที่ฝ้าเพดานรับน้ำหนักไม่ไหวจนทะลุเป็นโพรง เวลาฝนตกจะเกิดน้ำไหลนองไปทั่วบริเวณบ้าน ต้องรีบซ่อมแซมแก้ไขโดยด่วน เพราะอาจมีสิ่งสกปรกปนมากับน้ำฝน และมีสัตว์เล็ดลอดเข้ามาทำอันตรายคนในบ้านได้
เพื่อไม่ให้ปัญหาหลังคารั่วลุกลามใหญ่โต ควรหมั่นตรวจสอบสภาพการใช้งานหลังคาบ้านอย่างต่ำปีละ 2 ครั้ง ซึ่งมีวิธีสำรวจจากภายในบ้านและนอกตัวบ้านดังนี้
1. สังเกตจากนอกบ้าน
ให้สังเกตหลังคาด้วยสายตาจากนอกบ้าน โดยสังเกตจุดต่อไปนี้
• แผ่นกระเบื้องมีที่เผยอหรือแตกหักจนไม่ทาบพอดีกับกระเบื้องชิ้นข้างๆ หรือไม่
• ครอบสันหลังคาแนบสนิทกับกระเบื้องหลังคาทุกแผ่นที่อยู่ข้างใต้หรือเปล่า
• รางน้ำฝนแนบสนิทแน่นพอดีกับแนวขอบหลังคาหรือไม่
โดยหากตรวจพบความผิดปกติในส่วนใดส่วนหนึ่งตามข้างต้น ต้องรีบตามช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเข้าแก้ไขซ่อมแซมทันที
2. สังเกตแสงที่ลอดลงมาใต้หลังคา
วิธีนี้ต้องใช้ความระมัดระวังสูงในการปีนไปดูใต้หลังคา เพื่อสังเกตว่ามีจุดไหนที่แสงสว่างลอดส่องลงมาจากหลังคาบ้าง หากพบเห็นแสงเข้ามาแสดงว่าหลังคาบ้านนั้นรั่วแน่นอน ส่วนบ้านไหนที่ไม่สามารถปีนไปดูใต้หลังคาได้ ให้สังเกตรอยคราบน้ำเพียงอย่างเดียว
3. สังเกตจากฝ้า
สังเกตรอยคราบน้ำตามฝ้าต่างๆ โดยเฉพาะชั้นบนสุดที่ติดกับใต้หลังคา หรือสังเกตที่สีทาฝ้าก็ได้ หากพบเห็นรอยคราบเป็นด่างดวง ให้หาดินสอมามาร์กเอาไว้ หากฝนตกแล้วพบว่ามีรอยเพิ่มขึ้น หรือมีน้ำหยด แสดงว่ามีจุดที่หลังคาแตกหรือรั่วก็ควรรีบเปลี่ยนโดยด่วน
โดยสรุปแล้วปัญหาหลักของหลังคาบ้านคือการรั่วซึม ที่ทำให้เกิดความเสียหายจากตัวหลังคาลุกลามเข้าไปถึงส่วนต่างๆ ในตัวบ้าน ซึ่งหากเป็นปัญหาหลังคาแตก อุปกรณ์เสื่อมสภาพจากอายุการใช้งาน การซ่อมแซมแก้ไขไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากเป็นปัญหาที่การติดตั้ง หรือใช้วัสดุผิดประเภทตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง จากผู้รับเหมาหรือช่างที่ไม่ชำนาญ มักจะเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยาก ดังนั้นหากจะเริ่มมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้คัดเลือกอย่างใจเย็น และศึกษาผลงานให้ดี เพราะบ้านหลังหนึ่งต้องอยู่กันไปอีกนาน