แบบบ้านสไตล์รีสอร์ทเป็นแบบบ้านยอดนิยมมาโดยตลอด เพราะเป็นแบบบ้านที่เน้นการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับพักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง อีกทั้งแบบบ้านยังเหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อนอีกด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งที่โดดเด่นของแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทคือส่วนของหลังคา ซึ่งจะเป็นหลังคาแบบไหนนั้น มาติดตามทำความรู้จักไปด้วยกันค่ะ
รู้จักทรงหลังคาที่นิยมใช้สร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท
หลังคาบ้านมาตรฐานมีด้วยกันหลายแบบ ได้แก่ หลังคาแบน หลังคาเพิงหมาแหงน หลังคาปีกผีเสื้อ หลังคาทรงหน้าจั่ว หลังคาทรงปั้นหยา หลังคาทรงมะนิลา หลังคาทรงกลม หลังคาทรงหลายเหลี่ยม และหลังคาทรงโดม สำหรับหลังคาที่นิยมนำมาใช้สร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท มีดังนี้
ซึ่งจากการผสมผสานระหว่างแบบหลังคาสองทรง จึงทำให้มีความซับซ้อนของทรงหลังคามีมากกว่าแบบอื่นๆ และอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการรั่วซึมในช่วงรอยต่อหลังคาได้ ดังนั้นจึงต้องเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง
1. หลังคาทรงจั่ว
ทรงหลังคามีลักษณะเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมทอดยาวตลอดทั้งตัวหลังคา โดยจะมีผืนหลังคาที่ลาดเอียงสองด้านชนกันบริเวณปลายสูงสุดของหลังคา เนื่องจากทรงของหลังคามีการยกสูง และมีพื้นที่ใต้หลังคามาก ทำให้สามารถระบายความร้อนใต้หลังคาได้ดี ทำให้บ้านเย็น อยู่สบาย จึงเป็นหลังคาแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กันมาเนิ่นนาน
หลังคาทรงจั่วนี้ จะมีปัญหาการรั่วซึมน้อยมาก เนื่องจากมุมองศาของบ้าน ให้ความลาดเอียงเยอะเป็นพิเศษ เมื่อฝนตก ทำให้แรงของน้ำกระจายสู่ชั้นล่างได้รวดเร็ว หากมีการรั่วซึมของหลังคาก็สร้างปัญหาไม่มากนัก สำหรับแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทที่สนใจหลังคาทรงจั่ว ให้พิจารณาทิศทางลมขณะฝนสาด หากเป็นทิศทางที่หันเข้าสู่จั่วบ้าน ควรติดตั้งหลังคากันสาดเพิ่มเติมหรือต่อเติมชายคาบ้านให้กว้างขึ้น เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าบ้าน
2. หลังคาทรงปั้นหยา
ลักษณะเด่นของหลังคาทรงปั้นหยาคือ โครงหลังคามีด้านลาดเอียงทั้งสี่ด้านขึ้นไปชนกันเป็นจุดยอดรวม และเป็นส่วนบนสุดของหลังคา ชายคามักจะยื่นออกไปปกคลุมตัวบ้าน ช่วยกันแดดและกันฝนได้ดี และหลังคาแบบนี้ยังมีข้อดีที่ความคงทนแข็งแรงด้วยลักษณะของหลังคาที่ทุกด้านบรรจบกันบนยอดสุดทำให้เกิดความมั่นคง
สำหรับบ้านสไตล์รีสอร์ทที่เลือกโครงหลังคาแบบปั้นหยา ต้องเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความชำนาญในการสร้างโครงหลังคาแบบนี้ เพราะตัวหลังคามีจุดเชื่อมต่อมากกว่าแบบอื่น อาจทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้
3. หลังคาทรงมะนิลา
หลังคาทรงนี้เกิดจากการนำข้อดีระหว่างทรงปั้นหยากับทรงหน้าจั่วมาผสมผสานกัน คือมีความแข็งแรงสามารถรับแรงปะทะจากลมแดดลมฝนจากทุกทิศทางของทรงปั้นหยา และความสามารถในการระบายความร้อนได้ดีของทรงหน้าจั่ว ความชันของหลังคาทรงมะนิลายังเหมาะสมต่อการระบายน้ำฝนและยังสามารถป้องกันแดดให้กับตัวบ้านได้ทั้งสี่ด้านเหมือนทรงปั้นหยา
รูปทรงของหลังคาทำให้มีพื้นที่ใต้โถงหลังคาค่อนข้างมาก เอื้อต่อการระบายความร้อนออกทางชายคาเหมือนทรงหน้าจั่ว นอกจากนี้ระยะชายคาที่ยื่นออกจากตัวบ้านโดยรอบก็ยังช่วยให้ร่มเงาได้อีกด้วย เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของไทยเป็นอย่างมาก
4. หลังคาทรงแบน
หลังคาทรงแบน หรือหลังคาเปลือย เป็นทรงหลังคาที่มีลักษณะแบนราบเป็นระนาบเดียวกับพื้น ถือเป็นทรงยอดนิยมสำหรับบ้านในยุคนี้ และบ้านสไตล์รีสอร์ทหลายๆ แบบ ก็มักจะเลือกหลังคาทรงนี้มาใช้ เพราะมีความเรียบง่าย สร้างง่ายไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้พื้นที่ของหลังคา ซึ่งเรียกว่าดาดฟ้า ให้เกิดเป็นประโยชน์ได้ เช่น จัดเป็นสวนบนดาดฟ้า สวนนั่งเล่น พื้นที่รับลมเย็นๆ ได้อีกด้วย
หลังคาทรงแบนสามารถดูดซับความร้อนและรับน้ำฝนโดยตรง จึงต้องสร้างให้มีความลาดเอียงเล็กน้อยเทไปยังช่องเจาะระบายน้ำฝนหรือท่อระบายบนหลังคา และมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี
โครงหลังคาบ้านมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็มีจุดเด่น ข้อควรระวังแตกต่างกันไป ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนเลือกใช้ให้เหมาะกับแบบบ้าน เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ต้องไม่ละเลยเรื่องความแข็งแรง ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับสภาพอากาศและพื้นที่ รวมทั้งการออกแบบอย่างมีมาตรฐานโดยควรมีผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของคุณ