บ้านสไตล์รีสอร์ท มีจุดเด่นที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับพื้นที่ของบ้านทั้งภายในและภายนอก ดังนั้นสวนสวยๆ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านสไตล์นี้ ซึ่งการออกแบบตกแต่งเริ่มแรกที่ว่าสำคัญแล้ว การดูแลรักษาให้สวนสวยอยู่ตลอดเวลายิ่งสำคัญกว่า เพราะต้องใช้ทั้งเวลาและความใส่ใจดูแล หากปล่อยปละละเลยท้ายที่สุดแล้วก็จะกลายเป็นสวนรกร้างไปตามกาลเวลา แต่ปัญหานี้ยังมีทางออกเพราะ AYB มีแนวทางการเติมสวนสวยในบ้านสไตล์รีสอร์ท ฉบับคนไม่มีเวลาดูแล จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ
ทำอย่างไรเมื่ออยากเติมสวนสวยในบ้านสไตล์รีสอร์ทแต่ไม่มีเวลาดูแล?
1. เลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสม
ต้นไม้มีหลากหลายประเภท การดูแลเอาใจใส่ก็แตกต่างกัน บางต้นต้องการการดูแลมาก บางต้นอึดทนไม่สนคนเอาใจใส่ ดังนั้นสำหรับสายธรรมชาติแต่ขาดเวลา แนะนำให้เลือกพันธุ์ไม้ที่ทนทาน ไม่ต้องดูแลมาก ไม่ต้องการน้ำบ่อยๆ และทนต่อแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม เช่น ต้นวาสนา จั๋ง โกสน พิกุล หมาก ต้นไม้เหล่านี้รดน้ำ 5-7 วันครั้ง ก็ยังยืนต้นอยู่ได้สบายๆ และที่สำคัญต้นไม้ที่แนะนำดังกล่าว ไม่ค่อยผลัดใบ จึงไม่มีใบไม้ร่วงหล่นเต็มสวน ให้ต้องเสียเวลาเก็บกวาดบ่อยๆ อีกด้วย ซึ่งหากมีการวางแผนสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทพร้อมสวน และบอกความต้องการกับบริษัทรับสร้างบ้านที่ออกแบบบ้านให้ตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะช่วยให้วางตำแหน่งและเลือกใช้ต้นไม้แต่ละชนิดได้ง่ายและลงตัวกับแบบบ้าน
2. สวยง่ายๆ ด้วยหญ้าเทียม
สนามหญ้าสีเขียวขจี เป็นสวนในฝันของหลายๆ คน แต่การดูแลให้สนามหญ้าสวยฟูไม่รกรุงรังต้องใช้เวลามากกว่าการดูแลต้นไม้เสียอีก เพราะต้องหมั่นตัดแต่งทุกๆ 2 สัปดาห์ ในฤดูฝนหญ้าจะเติบโตไวมาก และในฤดูร้อนหากรดน้ำไม่เพียงพอ หญ้าก็จะแห้งเหลืองและเหี่ยวตาย ดังนั้นหญ้าเทียมคือทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสนามหญ้าแต่ขาดเวลาดูแล เพราะหญ้าเทียมไม่เติบโตให้ต้องคอยตัด และไม่ต้องห่วงเรื่องโดนแดดเผาจนแห้งตายอีกด้วย หญ้าเทียมผลิตจากวัสดุที่หลากหลาย บางรุ่นให้สีและสัมผัสคล้ายหญ้าจริงจนดูแทบไม่ออกเมื่อนำมาปูบนพื้น แถมยังเข้ากับแบบบ้านทุกแบบอีกด้วย
3. ติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติ
การติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติ เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้สวนสวยงาม เขียวขจีอยู่เสมอ แม้เราจะคัดสรรพันธุ์ไม้ที่แข็งแรง อดทนต่อความแล้งได้ดี แต่หากไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอก็มีโอกาสเหี่ยวเฉาได้อย่างแน่นอน การติดตั้งระบบน้ำอัตโนมัติจะช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถตั้งเวลาได้ และหาจุดจัดวางเพื่อให้รดน้ำได้อย่างทั่วถึง เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องต้นไม้ได้เลย
4. ลดปริมาณของประดับและตกแต่งสวน
อุปกรณ์ตกแต่งสวน เช่น รูปปั้น น้ำพุ ตุ๊กตาดินเผา อ่างน้ำ ช่วยสร้างสีสันและทำให้สวนมีชีวิตชีวา แต่หากไม่ได้รับการดูแล ทำความสะอาด เมื่อเนิ่นนานไปบรรดาของประดับตกแต่งที่โดนแดดโดนฝนก็จะเก่า หมอง สกปรก เกิดคราบตะไคร่น้ำ กลายเป็นมุมที่ไม่น่ามอง ดังนั้นหากมีเวลาน้อยจึงควรลดของตกแต่งในสวนให้น้อยลง จะช่วยให้ดูแลสวนได้ง่ายมากขึ้น
5. เลือกทำบ่อน้ำแบบธรรมชาติ
การเลือกใช้บ่อน้ำธรรมชาติเติมแต่งในสวนเป็นการใช้พืชรวมถึงสารชีวภาพอื่นๆ ในการทำความสะอาดและบำรุงรักษาบ่อน้ำนั้นตามธรรมชาติ ทำให้แม้เจ้าของบ้านจะไม่มีเวลาดูแลมากนัก ก็ยังสามารถปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติได้ หากจะดูแลเป็นระยะๆ ก็ถือว่ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไม่สูง โดยการสร้างบ่อน้ำแบบธรรมชาตินี้ควรวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบและแจ้งบริษัทรับสร้างบ้านให้ เพื่อความลงตัวของบ้านตั้งแต่เริ่มสร้าง
6. วัสดุปูพื้นเลือกที่ดูแลง่าย
องค์ประกอบสวนส่วนสุดท้าย ที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงนั่นคือ วัสดุปูพื้นหรือทางเดินนั่นเอง โดยควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี เข้ากับสไตล์การจัดสวนของเรา ที่สำคัญต้องทำความสะอาดง่าย ซึ่งจะช่วยให้ทางเดินดูสวยงามอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุการลื่น โดยมีวัสดุปูพื้นที่แนะนำได้แก่ บล็อกคอนกรีต ไม้สังเคราะห์ WPC หรือกระเบื้องปูพื้นภายนอก
เทคนิคต่างๆ ที่ AYB ได้รวบรวมมาแบ่งปันนี้ เป็นเทคนิคที่ทำได้ไม่ยาก สามารถนำไปปรับใช้กับสวนที่บ้านได้ รับประกันว่าสวนสไตล์รีสอร์ทหรือสวนสไตล์ไหน ก็จะสวยงามยั่งยืนโดยไม่ต้องใช้เวลาดูแลรักษามากจนเกินไป