การจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เรียกได้ว่าเป็นโครงการใหญ่ในชีวิตโครงการหนึ่งทีเดียว เพราะต้องทุ่มเททั้งเงินทองและเวลา รวมถึงแรงกายแรงใจ เพื่อบันดาลให้บ้านออกมาสวยสมดังฝัน และทรัพย์สินมีค่าที่ต้องฝากชีวิตไว้ในระยะยาว ก็ควรมีหลักประกันเพิ่มความอุ่นใจ ป้องกันไม่ให้เงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตสูญเปล่าไปกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดังนั้นการทำประกันบ้านจึงถือเป็นการการันตีความปลอดภัยให้เจ้าของบ้านไม่มากก็น้อย
โดยประกันบ้านก็มีด้วยกันหลายรูปแบบ และ AYB ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้แล้ว ไปดูพร้อมกันได้เลยการจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เรียกได้ว่าเป็นโครงการใหญ่ในชีวิตโครงการหนึ่งทีเดียว เพราะต้องทุ่มเททั้งเงินทองและเวลา รวมถึงแรงกายแรงใจ เพื่อบันดาลให้บ้านออกมาสวยสมดังฝัน และทรัพย์สินมีค่าที่ต้องฝากชีวิตไว้ในระยะยาว ก็ควรมีหลักประกันเพิ่มความอุ่นใจ ป้องกันไม่ให้เงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตสูญเปล่าไปกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดังนั้นการทำประกันบ้านจึงถือเป็นการการันตีความปลอดภัยให้เจ้าของบ้านไม่มากก็น้อย โดยประกันบ้านก็มีด้วยกันหลายรูปแบบ และ AYB ได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้แล้ว ไปดูพร้อมกันได้เลย
สร้างบ้านทั้งที ควรมีประกันอะไรบ้าง?
1. ประกันอัคคีภัย
ประกันชนิดนี้จะเป็นประกันหลักของบ้านที่จะต้องทำ เมื่อเรามีการกู้สินเชื่อสร้างบ้าน เพราะอัคคีภัย หรืออุบัติเหตุไฟไหม้ เป็นสิ่งใกล้เรามากที่สุด และยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด ก๊าซหุงต้มรั่วไหล การหุงต้มหรือประกอบอาหารแล้วขาดความระมัดระวัง และสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย โดยประกันอัคคีภัยเป็นประกันที่คุ้มครองความเสียหายเกี่ยวกับตัวบ้านจาก 6 ภัยหลัก ได้แก่
• ภัยไฟไหม้
• ภัยฟ้าผ่า
• ภัยระเบิด
• ภัยจากยานพาหนะ
• ภัยจากอากาศยานและภัยเนื่องจากน้ำ (ซึ่งไม่รวมน้ำท่วม ท่อประปาแตก)
การให้ความคุ้มครองโครงสร้างบ้านประกอบด้วย ตัวบ้านซึ่งไม่รวมรากฐานที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น กำแพง กระจก หลังคา ผนัง และยังไม่รวมถึงทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้เพื่อการอยู่อาศัยตามปกติ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้านหรืออุปกรณ์ตกแต่ง
ประกันอัคคีภัยเป็นประกันระยะสั้น คือ มีระยะไม่เกิน 1-3 ปี เท่านั้น ในปัจจุบันกฎหมายบังคับให้ทำประกันอัคคีภัยสำหรับบ้านเดี่ยว เบี้ยประกันไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าบ้าน ซึ่งการทำประกันอัคคีภัยไม่ควรทำต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน
2. ประกันสินเชื่อบ้าน
ประกันสินเชื่อบ้าน หรือประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ หรือประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน (Mortgage Reducing Term Assurance : MRTA ) เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองกับผู้ขอสินเชื่อ ในกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรในขณะที่กำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านอยู่ โดยประกันจะคุ้มครองวงเงินกู้ 100% หรือบางส่วนที่ 70-80% ตามที่ผู้ขอสินเชื่อเป็นผู้เลือก ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับผู้ขอสินเชื่อ บริษัทประกันจะเป็นผู้ชำระหนี้ที่เหลืออยู่ให้กับทางธนาคารตามทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในสัญญา จึงช่วยให้ทายาทของผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องรับภาระหนักในการชำระหนี้ต่อ
3. ประกันภัยพิบัติ
เป็นประกันที่คุ้มครองเหตุจากภัยพิบัติ เช่น อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว ประกันประเภทนี้จะคุ้มครองในกรณี ดังนี้
• คณะรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรง
• มีผู้เรียกร้องค่าสินไหม 2 รายขึ้นไป ภายใน 60 วัน นับจากวันเกิดเหตุ
• พายุมีความเร็วลม 120 กม./ชม.
โดยกรณีอุทกภัยจะชดเชยตามระดับน้ำ แต่สำหรับบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เก็บน้ำ พื้นที่รองรับน้ำ หรือทางน้ำผ่าน บริษัทประกันจะไม่รับทำประกันประเภทนี้
4. ประกันทรัพย์สินภายในบ้าน
ประกันประเภทนี้หลายคนอาจมองข้าม หรือไม่ค่อยได้ยินมาก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีประโยชน์ไม่ต่างกับประกันประเภทอื่นๆ เพราะเป็นการปกป้องทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านของเราไม่ให้เสียหาย เนื่องจากประกันอัคคีภัยจะคุ้มครองในส่วนของโครงสร้างบ้านเท่านั้น ไม่รวมถึงทรัพย์สินภายในบ้าน ที่อาจจะมีมูลค่าสูงไม่แพ้กัน
ดังนั้นหากเราทำประกันทรัพย์สินภายในบ้านด้วย ทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้านตามเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ทีวี เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ วอลเปเปอร์ผนัง ก็จะได้รับการคุ้มครอง ซึ่งการคุ้มครองนี้มีเงื่อนไขว่าเหตุจะต้องเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุ ลูกเห็บ ฟ้าผ่า หรือเหตุจากน้ำ เช่น ท่อน้ำรั่ว ซึม แตก สร้างความเสียหายต่อของใช้ในบ้าน หรือจากเหตุจลาจล ยานพาหนะพุ่งชน
5. ประกันโจรกรรม
ประกันโจรกรรม คือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ ที่เกิดจากการกระทำของคนร้ายซึ่งเป็นบุคคลภายนอก โดยการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ซึ่งคนร้ายได้เข้าไปหรือออกไปจากสถานที่ที่เอาประกันภัย นอกจากนี้การประกันภัยโจรกรรมยังให้ความคุ้มครองรวมไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่อาคารซึ่งเป็นสถานที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ที่เกิดขึ้นจากการโจรกรรมของคนร้ายด้วย การรับประกันจะเป็นระยะสั้นแบบปีต่อปี โดยรายละเอียดของทรัพย์สินที่คุ้มครองจะต้องดูในกรมธรรม์อีกครั้ง
หลังจากได้รับทราบรายละเอียดประกันภัยแต่ละประเภท ก็ทำให้เจ้าของบ้านอุ่นใจว่าเมื่อทำประกันแล้ว หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเหนือการควบคุม เราก็ยังได้รับการคุ้มครองบรรเทาเหตุหนักให้เบาบางลง ทรัพย์สินมีค่าและบ้านหลังงามยังได้รับการชดเชย แต่สำหรับความอุ่นใจในเรื่องความปลอดภัยจากโครงสร้างและการก่อสร้างบ้านนั้น อยู่ที่การตัดสินใจเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานและมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านเหล่านี้จะมีการรับประกันงานก่อสร้างในระยะยาว ทำให้มั่นใจได้ว่าบ้านแข็งแรงปลอดภัย และหากเกิดปัญหาอะไรย่อมได้รับการแก้ไขไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน