Organic Living นิยามของบ้านแห่งความสุขที่ทำให้การอยู่อาศัยเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ โดยอาจไม่ต้องถึงกับนำต้นไม้มาวางไว้ในบ้าน แต่เน้นการออกแบบ การตกแต่ง ด้วยวัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และอยู่สบายทุกช่วงเวลา ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมโยงฟังก์ชันการใช้งานส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และเข้าถึงความเป็นธรรมชาติได้โดยง่าย ที่นี้ลองไปดูเคล็ดลับดีๆ สำหรับการสร้างบ้านแบบ Organic Living ที่ AYB นำมาฝากกัน
ที่มาของ Organic Living
Organic Living ถูกใช้ครั้งแรกโดย Frank Lloyd Wright สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ช่วงยุคสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ซึ่งมีผลงานการออกแบบมากมายตั้งแต่โรงแรม สำนักงาน โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และบ้านพักอาศัย ซึ่งขึ้นชื่อคือบ้านน้ำตก The Fallingwater House ที่สามารถหลอมรวมสถาปัตยกรรมการออกแบบกับธรรมชาติเข้ากันอย่างลงตัว และเป็นต้นแบบของการสร้างบ้านแบบ Organic Living
7 เคล็ดลับแต่งบ้านผ่อนคลายอิงธรรมชาติแบบ Organic Living
1. เติมพื้นที่สีเขียวสร้างความผ่อนคลาย
พื้นที่สีเขียวช่วยสร้างความสดชื่นเมื่อสัมผัส ให้ความรู้สึกผ่อนคลายยามเมื่อมองเห็น ในการออกแบบอาจเน้นให้บ้านมีพื้นที่สีเขียวที่สามารถจัดวางต้นไม้ ดอกไม้หรือสนามหญ้าได้ รวมทั้งยังสามารถเปิดรับสายชม สายน้ำ และกลิ่นอายของดินตามธรรมชาติได้ เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถซึมซับความเป็นธรรมชาติ และสร้างชีวิตชีวาให้กับบบรรยากาศในบ้าน
2. เน้นออกแบบบ้านโปร่ง โล่ง สบาย
การออกแบบบ้านที่เป็นมิตรและใกล้ชิดกับธรรมชาติ สิ่งสำคัญคือการมีช่องเปิดอย่างประตู หน้าต่าง หรือช่องระบายที่สามารถถ่ายเทอากาศจากภายในบ้านสู่นอกบ้าน และเปิดรับธรรมชาติจากนอกบ้านเข้าสู่ตัวบ้านได้ โดยอาจเปลี่ยนความหนาทึบของผนังเป็นการใช้กระจกใส หรือออกแบบห้องน้ำให้มีพื้นที่เปิดโล่งรับธรรมชาติแต่มีส่วนบังตาให้ความเป็นส่วนตัว
3. เน้นแต่งบ้านด้วยวัสดุธรรมชาติ
ความเป็นธรรมชาติมีผลต่อความรู้สึก การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น การทำบ้านด้วยพื้นไม้ (ไม้จากการปลูกเชิงพานิชย์ไม่ใช่ไม้จากการตัดตามธรรมชาติ) จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายทั้งจากการมองและสัมผัส มีลวดลายและลูกเล่นที่ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา ที่สำคัญพื้นไม้ยังมีความยืดหยุ่นสูง เป็นฉนวนชั้นดีที่ทำให้ให้พื้นบ้านไม่สะสมความร้อนอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งจากธรรมชาติที่สามารถเลือกใช่ได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ที่มีลวดลายธรรมชาติ งานผีมือที่ใช้วัสดุธรรมชาติและมีเพียงชิ้นเดียวในโลก หมอนผ้าฝ้าย สิ่งถักทอต่างๆ แจกันหิน โคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้หวาย เหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านดูไม่น่าเบื่อ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็เหมือนใกล้ชิดธรรมชาติทุกช่วงเวลา
4. โทนสีธรรมชาติสร้างบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่
สีสันสำคัญต่ออารมณ์และจิตใจ การแต่งบ้านด้วยสีต่างๆ จะกระตุ้นให้ผู้อาศัยมีความรู้สึกแตกต่างกัน ดังนั้นการแต่งบ้านแบบ Organic Living จึงควรเลือกใช้สีที่เป็นธรรมชาติซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องสีเขียวเสมอไป แต่อาจเลือกใช้สีกลุ่มเอิร์ธโทน จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้บ้านดูสงบและสบาย นอกจากสีเอิร์ธโทนแล้ว ยังอาจเลือกใช้สีตามธรรมชาติจากหลายๆ อย่าง เช่น ท้องฟ้า ทะเล สีป่าฝน ใบไม้แห้ง ใบไม้เปลี่ยนสี
โดยอาจเลือกนำสีเหล่านี้มาใช้กับส่วนประกอบหลักๆ ของบ้าน เช่น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ หรือผ้าม่าน เป็นการดึงธรรมชาติเข้ามาอยู่ในการตกแต่งที่พักอาศัยเพื่อสร้างความสมดุลของการพักผ่อน
5. สร้างความอบอุ่นด้วยแสงธรรมชาติ
แสงธรรมชาติช่วยสร้างความอบอุ่นในบ้านได้อย่างดี ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ชีวิตในแต่ละวันมีพลังในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ การออกแบบบ้านให้มีพื้นที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ภายในบ้านได้อย่างสมดุล จะช่วยสร้างบรรยากาศของการพักอาศัยให้ดูอบอุ่น ผ่อนคลาย และมีชีวิตชีวามากขึ้น
โดยอาจใช้การออกแบบหน้าต่าง ประตูสูงจรดเพดาน เพื่อเปิดรับแสงได้เต็มที่ และกำหนดทิศทางแสงเข้าที่เป็นมิตรกับการอยู่อาศัย จะช่วยให้บ้านน่าอยู่ ดูโปร่ง โล่ง และยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
6. สร้างมิติภายในบ้านด้วยกลิ่นหอมของธรรมชาติ
หากการพาตัวเองออกไปอยู่กับธรรมชาติเป็นเรื่องยากสำหรับการใช้ชีวิตในเมือง ดังนั้นการดึงธรรมชาติให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่พักอาศัยผ่านการตกแต่งแบบ Organic Living จึงเป็นทางออกที่หลายคนเลือก ซึ่งการสร้างบรรยากาศแบบเข้าถึงธรรมชาตินอกจากจะสัมผัสได้ด้วยตาแล้ว การสัมผัสทางกลิ่นก็ช่วยเสริมให้บ้านนั้นน่าอยู่มากขึ้น และกลิ่นธรรมชาติจะช่วยปลอบประโลมให้คลายจากความเหนื่อยล้าได้
โดยแต่งบ้านด้วยการปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้หอม การสร้างความสดชื่นด้วยสายน้ำ โขดหิน และเนินดิน เหล่านี้จะช่วยเสริมให้คุณได้สัมผัสกลิ่นของธรรมชาติชัดเจนขึ้น แต่หากบ้านมีพื้นที่ไม่มาก อาจเสริมด้วยอุปกรณ์เพิ่มกลิ่นหอม เช่น ก้านน้ำหอม เทียนหอม เครื่องพ่นไอน้ำที่ผสมน้ำหอม โดยเลือกแบบกลิ่นอ่อนๆ และควรใช้แบบออร์แกนิกเพื่อไม่ก่ออันตรายแก่ผู้พักอาศัย
7. การตกแต่งแบบย่อธรรมชาติใกล้ชิดชีวิตเมือง
การได้เห็นธรรมชาติแบบครบองค์ประกอบอาจเป็นไปได้ยากสำหรับหลายคน เพราะข้อจำกัดด้วยเวลาที่จะเดินทางไปถึงธรรมชาติพื้นที่นั้นๆ หรือข้อจำกัดด้านพื้นที่ที่จะดึงธรรมชาติมาไว้ในการออกแบบบ้าน ดังนั้นการย่อสวนธรรมชาติลงในของตกแต่ง เช่น สวนขวด ภาพวาด จึงเป็นอีกทางเลือกช่วยให้ผู้พักอาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบย่อส่วนได้
การใช้ชีวิตโดยมีธรรมชาติเข้ามาผสมผสานและเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน จะช่วยให้ผู้พักอาศัยมีพื้นที่พักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะพลังของธรรมชาติจะช่วยให้เกิดความผ่อนคลายไม่ว่าทั้งการสัมผัสทางตา ผิวหนัง หรือจมูก ดังนั้นการออกแบบบ้าน Organic Living ให้สวยงามลงตัวไปพร้อมๆ กับมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยจึงควรเลือกใช้ผู้ที่มีความเป็นมืออาชีพเพื่อให้คุณเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างแท้จริง