ในช่วงปีนี้หลายๆ คนได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น บางครอบครัว Work from Home หรือเรียนออนไลน์ จึงได้อยู่บ้านเป็นประจำ ใช้พื้นที่ในบ้านทำกิจการงาน และกิจส่วนตัว ทำให้ได้ใช้พื้นที่ในบ้านแทบทุกส่วน แต่บางทีก็รู้สึกไม่เป็นส่วนตัว ด้วยรั้วที่โปร่ง หรือดีไซน์บ้านที่ประตู หน้าต่างเป็นกระจกใส วันนี้เรามี 3 เทคนิคสร้างจุดบังสายตา ให้ความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายในพื้นที่บ้าน เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่อบอุ่น ปลอดภัย ส่วนตัว และสามารถใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของบ้านได้อย่างคุ้มค้า
1. เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม
• รั้ว คือปราการด่านแรกของบ้าน ที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อาศัยในบ้าน ดังนั้นรั้วเป็นจุดที่ควรทำจุดบังสายที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาจากคนนอก หรือเพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านฝั่งตรงกันข้ามหรือด้านข้าง มองเข้ามาเห็นภายในบ้านมากเกินไป โดยสามารถทำการต่อเติมจุดบังสายตาลงบนโครงสร้างกำแพงที่มีอยู่แล้ว หรือจะทำขึ้นมาใหม่ไม่อิงโครงสร้างเดิมก็ได้
• ระเบียง อีกส่วนที่เปิดโล่ง และมักยื่นออกมาจากตัวบ้าน คือ ระเบียง ซึ่งหากต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ลองมองหาด้านที่ไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมองเห็น แล้วทำจุดบังสายตาเอาไว้ที่ด้านนั้น
• จุดที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ บ้านยุคใหม่มักนิยมใช้กระจกเข้ามาแทนที่ประตู และผนัง เพื่อสร้างความรู้สึกโล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด รับแสงและเชื่อมต่อกับภูมิทัศน์ภายนอก ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ดังนั้นสำหรับบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ก็ควรหาจุดบังสายตามาแก้ไขข้อบกพร่องตรงนี้
2. ใช้ไม้ระแนงมาเป็นวัสดุบังสายตา
บ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังต้องการแสง ลม และมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอก สามารถเลือกติดตั้งทำแผงระแนงไม้ เพื่อบังสายตาจากภายนอก ปกปิดภูมิทัศน์ที่ไม่สวยงาม หรือติดในทิศที่มีแสงจ้า เพื่อลดทอนความร้อนจากแสงแดดให้กับอาคาร
ระแนงไม้ หรือไม้ระแนง คือ แผงไม้หน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่จัดเรียงด้วยช่องไฟที่เท่าๆ กัน ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน ซึ่งวัสดุอาจเป็นไม้จริง หรือวัสดุทดแทน คือไม้ระแนงสังเคราะห์ ซึ่งนิยมใช้อยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ระแนงไวนิล (UPVC) ระแนงพลาสวูด (WPC) และระแนงไฟเบอร์ซีเมนต์
การติดตั้งมีทั้งแบบฟิกซ์ (Fixed) หรือติดตาย และทำเป็นระแนงไม้บานเลื่อนเพื่อ เปิด-ปิด มุมที่ต้องการได้เช่นกัน และจุดสำคัญคือควรคำนวณเรื่องระยะห่างระหว่างซี่ไม้ให้ลงตัว หากห่างจนเกินไปจะเกิดช่องว่างที่ไม่ค่อยสวยงามเมื่อมองจากมุมมองภายนอก กลับกันหากเว้นระยะน้อยเกินไปจะดูทึบ อึดอัด และกลายเป็นแผงกั้นลมไปแทน
3. ใช้ต้นไม้บังสายตาและสร้างความร่มรื่น
วิธีนี้ได้ทั้งจุดบังสายตา และยังได้ความผ่อนคลายสดชื่นไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่อยากสร้างบรรยากาศให้ได้ความเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ท ต้นไม้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก
โดยการใช้ต้นไม้บังตาอาจวางแผนตั้งแต่การสร้างบ้าน เพื่อออกแบบสวนไปพร้อมๆ กัน หรือจะเป็นการลงมือค่อยๆ ปลูกเอง หรือซื้อสำเร็จมาตั้งเลยก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเลือกต้นไม้มาใช้พรางสายตานั้น มีหลายวิธีด้วยกัน
• รั้วต้นไม้ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ไม่ต้องสร้างกำแพงให้ยุ่งยากและเปลืองค่าแรง ก็ได้กำแพงปิดมิดชิดไม่แพ้กำแพงปูน ต้นไม้พุ่มหนายิ่งมองทะลุยาก ต้นยิ่งสูงยิ่งปีนยาก ที่สำคัญคือช่วยให้บ้านเย็นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก รู้สึกสดชื่นเมื่อเห็นสีเขียวชอุ่มอีกด้วย
ต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูกริมรั้ว มักจะเป็นไม้ที่ทนแดด ใบไม่ร่วง และมีพุ่มหนา ได้แก่ โมกข์ แก้ว ชาฮกเกี้ยน ไทรเกาหลี คริสติน่า เข็ม เฟื่องฟ้า และไผ่เลี้ยง
• กำแพงต้นไม้จากสวนแนวตั้ง ทำกำแพงต้นไม้ด้วยสวนแนวตั้งเก๋ๆ จะได้ประโยชน์ 2 ทาง ทั้งสร้างความเป็นส่วนตัว และเพิ่มพื้นที่ปลูกต้นไม้ในบ้านด้วย โดยนำกระถางต้นไม้มาวางเรียงไว้บนแผ่นไม้พาเลท โต๊ะทรงสูง หรือชั้นวางต้นไม้ ให้มีความสูงมากพอที่จะบดบังสายตาจากภายนอก การใช้ไม้กระถางเล็กๆ ทำให้เคลื่อนย้าย เปลี่ยนแปลงได้ง่าย และยังดูแลง่ายกว่าไม้ใหญ่
เทคนิคต่างๆ สามารถเลือกปรับใช้ให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง ไลฟ์สไตล์แต่ละครอบครัว หรือหากใครกำลังจะสร้างบ้าน สามารถปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน หรือบริษัทรับออกแบบบ้าน สไตล์รีสอร์ท เพื่อให้ได้บ้านที่สวย และยังคงความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งข้อดีของการสร้างบ้านเอง จะทำให้สามารถออกแบบบ้านได้เหมาะกับลักษณะการใช้ชีวิตเจ้าของบ้าน และเหมาะกับสภาพแวดล้อมของที่ตั้งบ้านอีกด้วย