การสร้างน้ำตก เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้แบบบ้านสไตล์รีสอร์ทสมบูรณ์แบบ เพราะต้องยอมรับว่าแค่ชื่อก็สามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้พักผ่อนจากเรื่องเครียดๆ ได้ รวมทั้งบรรดาต้นไม้ต่างๆ ที่ให้ร่มเงาก็ยิ่งทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งในการจัดแต่งน้ำตกในสวนให้สวยร่มเย็นได้นั้น ต้องอาศัยเทคนิคต่างๆ ร่วมด้วย และหากใครที่กำลังมีแผนทำน้ำตก ตามเราไปดูเทคนิคดีๆ กันค่ะ
เทคนิคการจัดแต่งน้ำตกในสวนของบ้านสไตล์รีสอร์ท
1. เตรียมพื้นที่
เมื่อมีแผนที่จะสร้างน้ำตก สิ่งแรกที่ต้องคำนวณคือเรื่องพื้นที่ เจ้าของบ้านต้องมั่นใจว่าในบริเวณบ้านของคุณยังมีพื้นที่มากพอที่จะสามารถขุดทำแอ่งพักน้ำ ทำระบบกรองน้ำ สร้างตัวน้ำตก วางต้นไม้ดอกไม้พุ่มเล็กพุ่มน้อยช่วยเสริมบรรยากาศให้สวนดูมีความเป็นธรรมชาติ รวมถึงต้องคำนวณพื้นที่เผื่อสำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นเมนหรือต้นประธาน เพื่อทำหน้าที่ให้ร่มเงาทั้งวันได้ด้วย
2. ทิศทางและตำแหน่งลงตัว
โดยทั่วไปจะเห็นว่าตัวน้ำตกนั้นมีฉากหลังเป็นกำแพง รั้ว หรืออาจใช้เป็นต้นไม้ขนาดกลางๆ ที่วางทิศทางและตำแหน่งสอดคล้องสมดุลกับบริเวณโดยรอบ โดยทริคคือน้ำตกจะต้องสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของบ้าน
3. ขนาดและรูปทรงเหมาะสม
เมื่อเทียบกับขนาดและพื้นที่แล้วต้องมีความเหมาะสม ไม่ควรใหญ่เกินไป เพราะเรื่องที่ต้องคำนึงก็คือความชื้น หากใหญ่เกินไป ละอองน้ำก็อาจกระทบต่อพื้นดินโดยรอบ อีกทั้งความชื้นก็ส่งผลต่อสุขภาพและทำให้เกิดราได้
รูปทรงของน้ำตกจะกระจายหรือไม่นั้นต้องมีเทคนิคการจัดวาง รูปทรงต้องห้ามคือทรงหน้าผา เพราะน้ำที่ตรงโดยไม่มีการลดหลั่น จะทำให้เกิดเสียงดังและรำคาญได้ ที่สำคัญคือขาดความเป็นธรรมชาติ จึงควรออกแบบให้น้ำตกมีลักษณะการไหลของน้ำแบบเบาๆ เพื่อให้ได้อรรถรสของธรรมชาติ การตกกระทบของน้ำต่างความสูง ต่างวัตถุ จะให้เสียงมีมิติ เหมือนกำลังฟังเพลงจากธรรมชาติกล่อมท่ามกลางลมอ่อนและละอองเย็นๆ
4. ลานกิจกรรม
แน่นอนว่าบริเวณน้ำตกจะเป็นอีกพื้นที่สำคัญในการทำกิจกรรมของครอบครัวได้ดี ดังนั้นการจัดตกแต่งด้วยต้นไม้น้อยใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ทิ้งไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถใช้พื้นที่นี้ได้นานขึ้น
การเลือกทิศทางเพื่อร่มเงา และไม่ขวางทิศทางลม จึงต้องผ่านการเลือกจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมักจะจัดต้นไม้ต่างๆ ให้สูงสลับ ลดหลั่นกันไป โดยต้นไม้ที่นิยมนำมาใช้ เช่น โมกลา กาหลง กรรณิการ์ รำเพย แก้วมุกดา เล็กครุฑห้าแฉก เฟินไก่ทอง กล้วยประดับ นอกจากนี้หากมีแผนจะจัดมื้อพิเศษนอกบ้าน ก็สามารถหยอดไฟ ตามโคนต้นใหญ่ เพื่อส่องสว่างให้บริเวณนี้เป็นลานอเนกประสงค์ของครอบครัวได้ทุกเวลา
5. มอส เฟิร์น สัญลักษณ์ของน้ำตก
หากเอ่ยถึงสัญลักษณ์แห่งความชุ่มชื้นนั้น ต้นมอสและเฟิร์นถือเป็นไม้พุ่มเล็กที่ช่วยเติมความเป็นน้ำตกได้อย่างสมบูรณ์ ตำแหน่งของไม้พุ่มเล็กจะอยู่แซมเพื่อเชื่อมระหว่างไม้พุ่มสูง ไม้พุ่มกลาง และไม้คลุมดิน ให้อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวอย่างต้นไม้พุ่มเล็ก ได้แก่ ต้อยติ่งฝรั่ง เข็มอินเดีย พลับพลึงหนู รางทอง ไอริส เฟินฮาวาย หญ้าถอดปล้อง พลับพลึงตีนเป็ด ไม่เพียงแค่ไม้พุ่มเล็กที่จะแต่งเติมความสมบูรณ์ได้เท่านั้น การเติมตอไม้ ชุดกาแฟไม้สีธรรมชาติลงไปในพื้นที่ แล้วปล่อยให้เถาต่างๆ เลื้อยมาเกาะก็ทำให้สวนของเราดูเย็นเป็นธรรมชาติได้
6. จัดทางเดิน
เมื่อมองจากมุมกว้าง ทางเดินจะเป็นเหมือนแผนกต้อนรับที่จะเชิญชวนให้เราอยากเดินเข้าไปชมน้ำตกใกล้ๆ ฉะนั้นการจัดทางเดินจึงมีทริคที่น่าสนใจคือ หากออกแบบบ้านเป็นทรงเส้นตรง ทรงสูง การควรจัดพุ่มไม้ทางเดินให้เป็นแนวเส้นโค้ง วางรูปปั้น ก้อนหิน หรือปูพื้นทำลานหินเล็กๆ ทรงไม่เป็นระเบียบ จะเบรกไม่ให้สวนดูตรงทื่อเกินไป รวมถึงแต่งแนวทางเดินด้วยพุ่มดอกไม้ที่ให้กลิ่นหอม เช่น ต้นพุด นอกจากจะสบายตาแล้ว ใบเป็นทรงพุ่มจะทำให้สวนดูละมุนขึ้น แถมกลิ่นหอมยังช่วยให้การชมน้ำตกสดชื่นมีอรรถรสอีกด้วย
น้ำตกสวยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พื้นที่สวนของเราสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งการจะทำให้น้ำตกสวยสดชื่น ย่อมต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่และขนาดของแบบบ้านนั้นๆ ด้วย โดยแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทเป็นแบบบ้านที่ค่อนข้างมีพื้นที่ที่สามารถใส่ต้นไม้ หรือลูกเล่นอื่นๆ เช่น ศาลา หรือบ่อปลา และที่สำคัญควรจัดตกแต่งโดยได้รับคำปรึกษาหรือทำโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างนักออกแบบสวน หรือบริษัทรับออกแบบบ้านในส่วนนี้ เพื่อให้เราสามารถใช้พื้นที่สวนได้อย่างคุ้มค่า ทุกมุม ทุกช่วงเวลา